ปลดล็อกแบรนด์แบบ Full-Funnel ด้วยขุมพลัง TikTok Marketing

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ TikTok ก่อตั้งขึ้น แพลตฟอร์มวิดีโอรูปแบบสั้น สามารถสร้างกระแสความนิยมและปรากฏการณ์ไปทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย แพลตฟอร์มที่เป็นมากกว่าช่องทางเสพสื่อความบันเทิง แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์เราอย่างกลมกลืน เที่ยงนี้ทานอะไรดี ? เสาร์นี้จะไปเที่ยวกับแฟนที่ไหน ? โรงแรมที่เราจะไปอยู่ที่ทางออกไหนของรถไฟฟ้า ? ทั้งหมดนี้ TikTok มีคำตอบให้ จึงไม่เกินจริงหากเราจะบอกว่าทุกวันนี้ TikTok ไม่ใช่เพียง แพลตฟอร์มให้ครีเอเตอร์มาสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นแหล่งให้ข้อมูลและสร้างแรงบันดาลใจให้สังคมไทยด้วย

TikTok แพลตฟอร์มที่ออกแบบและคัดสรรเนื้อหามาให้คุณโดยเฉพาะ (For You)

หากสรุปจุดเด่นของ TikTok ที่เหนือกว่าแพลตฟอร์มอื่นในประโยคสั้น ๆ อาจเป็นประโยคที่ว่า “แพลตฟอร์มคอนเทนต์หลากหลายที่มีการรับชมอย่างมีคุณภาพ (Diversity of Content with Quality View)”  

ฟีเจอร์หนึ่งที่ส่งเสริมให้ TikTok กลายเป็นแหล่งรวมคอนเทนต์อันหลากหลายแต่โดนใจผู้รับสารอยู่เสมอคือ ‘For You Feed’ (FYF หรือ หน้าฟีดสำหรับคุณ) คือระบบการแนะนำคอนเทนต์ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล เพื่อทำให้ผู้รับสารแต่ละคนพบกับเนื้อหา ผู้สร้างเนื้อหา และประเด็นต่าง ๆ ที่หลากหลายแต่ตรงใจ โดยอาศัยการพิจารณาการปฏิสัมพันธ์ที่ผู้รับสารทำบนแพลตฟอร์ม เช่น การกดไลก์ การแชร์ การแสดงความคิดเห็น การเสิร์ช การชมวิดีโอที่ได้รับความนิยม และอื่น ๆ อีกมากมาย 

ความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของแพลตฟอร์ม TikTok คือลักษณะทางประชากรศาสตร์ของผู้ใช้กำลังเปลี่ยนไปจากเมื่อปีก่อน กลุ่มผู้ใช้หลักจะเป็นคนอายุ 18-24 ปี แต่ในปีนี้กลุ่มผู้ใช้หลักกลายเป็น 25-34 ปี โดยกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ทำงานมาสักระยะหนึ่ง มีความมั่นคงทางหน้าที่การงานและการเงินแล้ว แน่นอนว่ากลุ่มนี้ถือเป็น Potential Buyer ซึ่งไม่ได้แค่เสพความบันเทิงฟรี แต่ยังกระเป๋าหนักพร้อมจ่ายเงินซื้อสินค้าอีกมาก

Touch Point ที่ผู้ใช้เข้าถึง TikTok

โจทย์ที่นักการตลาดดิจิทัลตั้งคำถามเมื่อใช้โซเชียลมีเดียมาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการตลาดคือ Touch Point หรือ ช่องทาง (Channel) ไหนที่ลูกค้าเข้ามาสัมผัสหรือคือการพบเจอแบรนด์ในโมเมนต์ที่กำลังสนใจค้นหาสินค้าหรือบริการกัน ? 

TikTok ทำการศึกษาผู้ใช้งานและแบ่ง Touch Point ออกเป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ 1.ช่วงที่ต้องการค้นหาสิ่งต่าง ๆ  (Discover) 2.ช่วงที่ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการ (Show Intentions) และสุดท้าย ช่วงที่ต้องการปฏิสัมพันธ์กับครีเอเตอร์ หรือแบรนด์ (Interact) พร้อมเสนอ Placement อันสร้างสรรค์ให้แบรนด์ไปเฉิดฉาย 

• Discover

ช่วงเวลาที่ผู้ใช้รู้สึกอยากค้นหาหรือเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ตัวเอง พวกเขาอาจใช้โฟมล้างหน้าอยู่แล้วแต่ไม่พอใจของเก่า และอยากได้แบรนด์ใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น ในเชิง Content เมื่อผู้ใช้อยากดูคอนเทนต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ TopView, Creator’s Content และ Brand’s Content 

ขณะที่หากเป็นช่วงที่ผู้ใช้ต้องการเจาะจงไปในการค้นหาสินค้าหรือบริการ TikTok Shop จะเข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้แทน ซึ่งนักการตลาดสามารถเลือกได้ทั้ง Video Shopping, Live Shopping, Shop Tab หรือ TikTok Shop Affiliate (การเอาสินค้าของแบรนด์อื่น ๆ ไปวางขายแล้วก็แบ่งรายได้กัน) ได้

• Show Intentions

ช่วงเวลานี้เราเรียกว่า ‘จังหวะจะซื้อ’ คือผู้ใช้รู้จักแบรนด์ มีข้อมูลของสินค้าและบริการมากพอ และกำลังเดินทางไปสู่จังหวะ (กำลังจะ) ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ โดยมีทั้ง Search Tab (ให้ลูกค้าค้นหาคอนเทนต์สินค้าหรือบริการของแบรนด์) Shopping Search (ลูกค้าค้นหาเฉพาะสินค้าหรือบริการ) และ Product Showcase (ลูกค้าเสิร์ชชื่อแบรนด์เพื่อเข้าไปดูหน้า Account ของแบรนด์โดยตรง)

• Interact

ช่วงเวลาที่ผู้ใช้เกิดความจงรักภักดี (Loyalty) ต่อแบรนด์และต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างใกล้ชิด ซึ่ง TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ในช่วงนี้ค่อนข้างมาก ทั้งการ Live (ผู้ชมสามารถดูคอนเทนต์แบรนด์ได้แบบเรียลไทม์) Live Shopping (การไลฟ์ขายของแบบเรียลไทม์) Chat (การแชทคุยกับแบรนด์) Branded Mission/Creative Challenge (แบรนด์รวบรวมคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์จากทางครีเอเตอร์บน TikTok แล้วหยิบการทำวิดีโอเหล่านี้มาใช้โปรโมตผ่านการยิงโฆษณา)

TikTok ตอบโจทย์การตลาดแบบ Full-Funnel

ความน่าหนักใจของการทำการตลาดดิจิทัลในอดีต คือต้องใช้แพลตฟอร์มมากมายหลายตัวเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทั้ง Full-Funnel ในหนึ่งแคมเปญ ซึ่ง TikTok เข้าใจปัญหาส่วนนี้ดี จึงพัฒนาแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ทั้ง Upper Funnel และ Lower Funnel หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายกว่านั้นคือ ด้านหนึ่ง TikTok ก็เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้แบรนด์สามารถบอกเล่าเรื่องราวของตนเองได้อย่างอิสระและเรียลมาก สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมเกิดความรักและชอบในแบรนด์มากยิ่งขึ้น (Nurture Love) ไม่เพียงแค่นั้น TikTok ยังเปิดทางให้แบรนด์เปลี่ยน “คนรักให้กลายเป็นลูกค้า” ด้วยเครื่องมือ Performance ที่ช่วยสร้างยอดขายหรือเร่งให้เกิดการกระทำบางอย่างได้จริง

โดยที่ผ่านมา TikTok ได้พิสูจน์ให้เห็นผ่านผลงานแล้วว่า แบรนด์ที่ทำการตลาดแบบ Full-Funnel ผ่านช่องทาง TikTok มีต้นทุนในการได้ลูกค้าหนึ่งราย (Cost Per Acquisition หรือ CPA) ลดลงกว่า 14% และมีอัตราส่วนระหว่างผู้ชมสินค้ากับคนที่ลงมือทำตามเป้าหมายที่แบรนด์กำหนดไว้ (Conversion Rate หรือ CVR) เพิ่มขึ้นมากกว่า 15%

อะไรคือความลับของการตลาดผ่าน TikTok นี้ ? พวกเขาแบ่งฟีเจอร์ตาม Funnel ไว้ 3 ช่วงคือ 1.ช่วงการสร้างตัวตนของแบรนด์ (Brand Building) 2.ช่วงการเปลี่ยนคนรักเป็นลูกค้า (Conversion) 3.ช่วงเปิดร้านขายสินค้า (Shop Ad)

• Brand Building

แน่นอนว่าช่วงสร้าง “คนรัก” แบรนด์ต้องเน้นกลยุทธ์การตลาดไปที่ Awareness และ Consideration ซึ่งฟีเจอร์ของ TikTok ได้ออกแบบมาให้ TopView, Branded Mission และ Reach & Frequency เป็นตัวเบิกทางสร้าง Awareness แก่ผู้ใช้ เสริมทัพด้วย Video View และ Community Interaction ที่เข้ามาตอบโจทย์ช่วง Consideration และ Engagement ตามลำดับ และปิดท้ายด้วยการประเมินผล (Measurement) ผ่านฟีเจอร์ Brand Lift Study (BLS)

• Conversion

เมื่อผู้ใช้ Fall in love with แบรนด์ของคุณแล้ว TikTok ก็ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบในการพาพวกเขาให้กลายเป็นลูกค้าผ่านฟีเจอร์ที่น่าสนใจ คือ Traffic, Lead Generation, Website Conversion และ App Promotion ในขั้นของ Conversion และฟีเจอร์ไฮไลท์อย่าง Pangle ที่เปิดทางให้แบรนด์สามารถยิงโฆษณาออกไปนอก TikTok ได้ด้วย 

• Shop Ad

TikTok ไม่ปล่อยให้ “จังหวะจะซื้อ” ของลูกค้าต้องหลุดลอยไป ด้วย Shop Ad ที่ “ดัก” ลูกค้าได้อยู่หมัด ในขั้นของ Conversion พวกเขาส่งฟีเจอร์ที่ตามลูกค้าไปทุก Touch Points อันได้แก่ Live Shopping Ads (โปรโมตสินค้าผ่าน Live), Video Shopping Ads (โปรโมตวีดีโอที่ติดตระกร้า) และ Product Shopping Ads (โฆษณาที่จะปรากฏเมื่อผู้ใช้ Search หรือ Explore สินค้าหรือบริการใน TikTok) ซึ่งทำให้ TikTok เป็นเหมือน One Stop ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อจบได้ในแพลตฟอร์ม

อย่าลืมว่าข้อเด่นของ TikTok คือการเป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยกว่า 80% และในจำนวนนั้นยังเป็นผู้มีกำลังซื้อ (คือมีรายได้ระดับกลางถึงสูงต่อปี) กว่า 60% ดังนั้นการทำการตลาดดิจิทัลกับ TikTok แบบ Full-Funnel จึงเป็นเรื่องคุ้มค่าอย่างยิ่ง

From Zero to Hero! ทำอย่างไรเมื่อแบรนด์อยากเริ่มทำการตลาดกับ TikTok

เริ่มจากการสร้าง Account บน TikTok ของแบรนด์คุณ และทดลองลงคอนเทนต์บางอย่างลงไปเพื่อทดสอบ Test Sentiment ของฐานลูกค้าปัจจุบันก่อน เมื่อเริ่มเข้าใจธรรมชาติของแบรนด์ตัวเองบนแพลตฟอร์ม TikTok แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องให้มืออาชีพเข้าไปช่วยจัดการ Set Up TikTok Shop อย่างเป็นระบบ

อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนการตลาดบน TikTok คือ ‘คอนเทนต์! คอนเทนต์! และคอนเทนต์!’ หากตอนนี้คุณยังมืดแปดด้านว่าจะดันคอนเทนต์อะไรออกสู่สายตาของลูกค้า Heroleads Asia พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้คุณ 

บริษัท Independent Digital Media ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ช่วยลูกค้าทำ Growth Marketing ผ่านเครื่องมือ Paid, Organic, Owned Media, Influencer, Creatives, Analytics และ Mar-Tech Solutions มายาวนานกว่า 9 ปี 

ติดต่อเราตอนนี้! รับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะแบรนด์ที่ต้องการทำการตลาดบน TikTok กับ Heroleads Asia เท่านั้น สนใจรายละเอียดและรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://heroleads.asia/ โทร. 02-038-5220