เปรียบเทียบ TikTok vs. Instagram Reels แพลตฟอร์ม Short Video แบบไหน ใช่สำหรับธุรกิจกว่ากัน !
บทความน่าอ่าน
เปรียบเทียบ TikTok vs. Instagram Reels แพลตฟอร์ม Short Video แบบไหน ใช่สำหรับธุรกิจกว่ากัน !
หากพูดถึงแพลตฟอร์มที่กำลังเป็นที่นิยมด้วยคอนเทนต์วิดีโอสั้น (Short Video) แน่นอนว่า TikTok และ Instagram Reels ต้องผุดเข้ามาในความคิดของหลาย ๆ คน เพราะนอกจากเรื่องของกระแสบนโลกออนไลน์ที่มีอย่างต่อเนื่องแล้ว Short Video Content ของทั้ง 2 แพลตฟอร์มยังตอบโจทย์ในแง่การทำการตลาดยุคดิจิทัลอีกด้วย
วันนี้เราจะมาเจาะลึกและเปรียบเทียบในหลาย ๆ แง่มุมระหว่าง 2 แพลตฟอร์ม เพื่อหาคำตอบว่าแพลตฟอร์มไหนที่จะ “ใช่” แบรนด์ควรเลือกอย่างไรให้ “ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างตรงจุด” ไปดูกันเลย !
ทำไม Short Video ถึงเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ?
Short Video หรือ Short-Form Video เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทั้ง TikTok และ Instagram Reels ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพทางการตลาด ด้วยรูปแบบของคอนเทนต์ที่มีความยาวไม่เกิน 60 วินาที ซึ่งจุดเด่นนี้เองทำให้วิดีโอ “ย่อยง่าย-แชร์ง่าย-เข้าถึงง่าย” เนื่องจาก Message ที่สื่อสารออกไปมีความกระชับ ตรงประเด็น และน่าสนใจ สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนในปัจจุบันที่ให้ความสนใจในเรื่องต่าง ๆ สั้นลง และมักรับชมวิดีโอผ่านทางสมาร์ตโฟนเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนั้นในฝั่งของเจ้าของธุรกิจเอง ก็ได้ผลิตคอนเทนต์ประเภทนี้ออกมาค่อนข้างมาก เพราะใช้ทรัพยากรคนและต้นทุนการสร้างไม่สูงเมื่อเทียบกับวิดีโอแบบยาว ในขณะเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือสร้าง Engagement ที่ดี จึงไม่แปลกที่ Short Video โดยเฉพาะ Short-Form Vertical Videos หรือวิดีโอสั้นแนวตั้ง จะครองใจทั้งฝั่งของกลุ่มลูกค้าและเจ้าของแบรนด์เอง
รู้จักกับ TikTok และ Instagram Reels แบบ Insight มากขึ้น
มาถึงเรื่องหลักของบทความนี้กันแล้ว แบรนด์หรือเจ้าของธุรกิจที่สนใจทำการตลาดด้วย TikTok และ Instagram Reels ไปเก็บข้อมูลของแต่ละแพลตฟอร์มกันเลย
TikTok
TikTok เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่เปิดตัวในปี 2018 เติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยตัวแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ Users สามารถสร้างสรรค์วิดีโอในสไตล์ตัวเองได้ตั้งแต่ไม่กี่วินาทีไปจนถึง 10 นาที แถมยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย ผู้ใช้งานจึงมีส่วนร่วมได้ง่าย
ข้อมูลและจุดขายที่น่าสนใจของ TikTok
- กลุ่มผู้ใช้งานหลัก : Gen Z และ Millennials ที่ชอบความสนุกสนาน ทันสมัย และติดตามเทรนด์อยู่เสมอ
- ความยาวของวิดีโอ : 15 วินาที ถึง 10 นาที
- ฟีเจอร์ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย : Effect, AR Filter, เพลงประกอบที่มีสีสันซึ่งมีให้เลือกมากมาย และตัดต่อวิดีโอได้ง่าย
- ฟีเจอร์ที่รองรับการตลาดแบบ E-Commerce : TikTok Shop ที่ทำให้กลุ่มลูกค้าสามารถชมสินค้า ซื้อ และจบขั้นตอนภายในแอปฯ ได้ทันที
สรุปข้อมูลเชิงสถิติ ของ TikTok แบบเจาะลึกขึ้นไปอีก !
เมื่อดูในแง่ของสถิติจากข้อมูลของ ByteDance ที่ DataReportal ได้นำมาเปิดเผยเกี่ยวกับการใช้งานของ Users ในประเทศไทย ยิ่งชัดเจนเลยว่า TikTok มาแรงไม่หยุดจริง ๆ เพราะพบความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
- จำนวนผู้ใช้งาน : 44.38 ล้านคน สำหรับกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป
- สัดส่วนผู้ชมโฆษณาแบ่งตามเพศ : ผู้หญิง 48.9% ผู้ชาย 51.1%
- การเข้าถึงของโฆษณา : เติบโตเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านคน (+10.2%) ระหว่างช่วงต้นปี 2023 ถึงต้นปี 2024
- การเข้าถึงของโฆษณาเมื่อเทียบกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต : 70.2%
จากข้อมูลของแพลตฟอร์ม (ByteDance) เป็นการเก็บข้อมูลถึงช่วงต้นปี 2024 และช่วงอายุที่สามารถใช้เครื่องมือทำโฆษณาได้จะอยู่ที่ 13 ปีขึ้นไป แต่เครื่องมือจะแสดงข้อมูลเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงเผยแพร่เฉพาะข้อมูลเพศของผู้ชมสำหรับผู้ใช้หญิงและชายเท่านั้น ดังนั้นอาจต้องจับตากันต่อไปว่า ในอนาคตตัวเลขการเติบโตจะสูงขึ้นไปที่เท่าไร
ไฮไลต์และข้อจำกัดของ TikTok สำหรับแบรนด์
ไฮไลต์ของแพลตฟอร์ม : นำเสนอคอนเทนต์แบบสั้นเป็นหลัก พร้อมระบบ Algorithm ที่ช่วยให้วิดีโอเข้าถึงผู้ชมได้ในวงกว้าง ซึ่งอาจทำให้เกิด Community ของ Users และเพิ่ม Engagement ให้แบรนด์ได้
ข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม : ด้วยความที่กลุ่ม Users หลักคือ Gen Z ดังนั้นอาจทำให้กลุ่มคน Gen นี้ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการซื้อสินค้าและบริการได้ อีกทั้งแบรนด์อาจต้องผลิตคอนเทนต์บ่อยครั้ง เพื่อรักษาความนิยมอย่างต่อเนื่อง
Instagram Reels
Instagram Reels หรือเรียกย่อ ๆ ว่า IG Reels เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Instagram เพราะเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวในปี 2020 โดย IG Reels จะโฟกัสที่การให้ Users สร้างสรรค์วิดีโอสั้น (Short Video) เช่นเดียวกับ TikTok แต่จะแตกต่างตรงที่ Mood & Tone หรือคอนเทนต์ที่นำเสนอในแพลตฟอร์มนี้จะเป็นไปในเชิงภาพและไลฟ์สไตล์ที่สวยงาม มีเรื่องราว แต่ไม่ทิ้งความสนุกสนาน ดังนั้นจึงสร้างโอกาสในการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายได้เช่นเดียวกัน
ข้อมูลและจุดขายที่น่าสนใจของ Instagram Reels
- กลุ่มผู้ใช้งานหลัก : Millennials และกลุ่มผู้ใช้งานที่ชอบภาพและไลฟ์สไตล์ที่สวย มีความเฉพาะตัว
- ความยาวของวิดีโอ : 90 วินาที
- ฟีเจอร์ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย : Effect, Filter, Sticker, เพลงประกอบที่มีให้เลือกเยอะ และสามารถเพิ่ม-ลดความเร็วของวิดีโอได้
- ฟีเจอร์ที่รองรับการตลาดแบบ E-Commerce : Instagram Shopping ที่แบรนด์สามารถแท็กสินค้าบน Reels หรือใส่ลิงก์เพื่อให้กดไปชมสินค้าต่อได้ที่เว็บไซต์
สรุปข้อมูลเชิงสถิติ ของ Instagram แบบเจาะลึกไม่แพ้กัน !
มาที่ฝั่งสถิติของ Instagram กันบ้าง จากข้อมูลของ Meta ที่ DataReportal ได้นำมาเปิดเผย ทำให้เห็นการเติบโตของแพลตฟอร์มด้านการใช้งานของ Users ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน โดยแต่ละด้านแบ่งได้ตามด้านล่าง
- จำนวนผู้ใช้งาน : 18.75 ล้านคน
- สัดส่วนผู้ชมโฆษณาแบ่งตามเพศ : ผู้หญิง 60.6% ผู้ชาย 39.4%
- การเข้าถึงของโฆษณา : เติบโตเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านคน (+8.1%) ระหว่างเดือนมกราคม 2023 ถึงเดือนมกราคม 2024
- การเข้าถึงของโฆษณาเมื่อเทียบกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต : 29.7%
จากข้อมูลของแพลตฟอร์ม (Meta) เป็นการเก็บข้อมูลถึงช่วงต้นปี 2024 และช่วงอายุที่แพลตฟอร์มอนุญาตให้ใช้งาน Instagram ได้คือ 13 ปีขึ้นไป ดังนั้นข้อมูลด้านบนจึงแสดงข้อมูลเฉพาะผู้ที่มีสิทธิ์ใช้งานแพลตฟอร์มเท่านั้น และเผยแพร่เฉพาะข้อมูลเพศของผู้ชมสำหรับผู้ใช้หญิงและชายเช่นเดียวกัน
ไฮไลต์และข้อจำกัดของ Instagram Reels สำหรับแบรนด์
ไฮไลต์ของแพลตฟอร์ม : ด้วยความที่ Reels อยู่บนแพลตฟอร์ม Instagram อยู่แล้ว จึงมีโอกาสใช้ Data ของกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีอยู่ได้ นอกจากนั้นยังพบวิดีโอได้ในหลายส่วน ทั้ง IG Stories, Explore หรือที่หน้า Feed เอง รวมถึงสามารถทำโฆษณา Cross แพลตฟอร์มไปที่ Meta (Facebook) ได้อีกต่อ จึงมีโอกาสสูงที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเจอกับโฆษณาได้
ข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม : การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ใช้งานใหม่อาจน้อยกว่า TikTok และอาจต้องแข่งขันกับคอนเทนต์รูปแบบอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มเอง
สรุปความแตกต่างระหว่างแพลตฟอร์ม TikTok กับ Instagram Reels
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้ง 2 แพลตฟอร์ม
(ข้อมูลการใช้งานของ Users ในประเทศไทย ถึงช่วงต้นปี 2024)
TikTok vs. Instagram Reels เลือกแบบไหนดีที่เหมาะสำหรับธุรกิจ ?
หากถามว่า ถ้าต้องเลือกทำธุรกิจบนแพลตฟอร์ม TikTok vs. Instagram Reels ผ่านการทำ Short Video เพื่อให้ได้ช่องทางที่ใช่ และตอบโจทย์ธุรกิจอย่างตรงจุดที่สุด
ก็ต้องตอบว่า ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการไปจับ นั่นก็เพราะว่าทั้ง TikTok และ Instagram Reels มีจุดเด่นและข้อจำกัดกันคนละแบบ ซึ่งจะเห็นได้จากตารางเปรียบเทียบด้านบน
หากแบรนด์ต้องการสร้างแคมเปญที่มี Engagement สูง ได้รับผลตอบรับที่รวดเร็ว ก็อาจเลือกทำคอนเทนต์ในเชิง Entertainment ผ่าน Short-Form Vertical Videos บน TikTok ซึ่งมีกลุ่มลูกค้า Gen Z จำนวนมากที่ชอบตามเทรนด์และชอบมีส่วนร่วมใน Community จนทำให้เกิด Brand Awareness หรือนำไปสู่โอกาส Convert กลับมาเป็นลูกค้าได้
- Industry ที่เหมาะกับ TikTok เช่น แฟชันและความงาม, อาหารและเครื่องดื่ม, IT Gadgets และอีกมากมาย
ในขณะที่คอนเทนต์วิดีโอสั้นใน Instagram Reels เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างเรียบง่าย แต่แสดงออกถึงความ Unique ผ่านวิดีโอสั้นที่โดดเด่นเรื่องภาพ และวางกลยุทธ์การตลาดให้สามารถใช้ข้อมูลลูกค้ากลุ่ม Millennials ของ Instagram ที่มีอยู่แล้วได้ด้วย ดังนั้นแบรนด์ไหนที่มี Goal และกลุ่มเป้าหมายตามนี้ ก็อาจให้ IG Reels เป็นอีกช่องทางหนึ่งได้
- Industry ที่เหมาะกับ Instagram Reels เช่น แฟชัน เครื่องสำอาง ความงามและสุขภาพ ร้านอาหาร คาเฟ่ ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เป็นต้น
Tips : Short-Form Vertical Videos สามารถนำไปใช้งานได้ในทั้ง 2 แพลตฟอร์ม แนะนำให้ลองทำโฆษณาร่วมกันทั้งคู่ แต่แบ่งสัดส่วนและงบประมาณอย่างเหมาะสม เพื่อขยายโอกาสการเติบโตของธุรกิจ !
Heroleads Asia ขอแนะนำแพ็กเกจ TikTok Content Marketing
เมื่อเลือกแพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่ตรงกับเป้าหมายของแบรนด์ได้แล้ว หากเจ้าของธุรกิจท่านไหนที่สนใจอยากลองทำการตลาดด้วย Short Video บน TikTok และกำลังมองหาพาร์ตเนอร์เข้ามาช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจไปด้วยกัน
Heroleads Asia มีแพ็กเกจดี ๆ สำหรับทำการตลาดบน TikTok กับแพ็กเกจ TikTok Content Marketing ด้วย Short-Form Vertical Videos 2 แพ็กเกจหลัก นั่นคือ แบบมี Talent และแบบไม่มี Talent โดยในแต่ละแพ็กเกจจะแบ่งออกเป็นแพ็กเกจย่อย Starter และ Professional
หากสนใจแพ็กเกจทำการตลาดบน TikTok กับเรา สามารถสอบถามและขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ https://heroleads.asia/ หรือโทร. 02-038-5220 Heroleads Asia พร้อมเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการทำการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร
อ้างอิง : datareportal