จับตา 5 เทคโนโลยีการตลาดดิจิทัล พลิกโฉมหน้าธุรกิจอสังหาฯ ยุค 4.0
ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 57 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนถึง 82% จากจำนวนประชากรทั้งหมด 69 ล้านคน เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า เรากำลังเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มตัว และนั่นทำให้นักการตลาดในยุคนี้ต้องพลิกตำราหากลยุทธ์กันใหม่ โดยนำเทคโนโลยีการตลาดดิจิทัลมาใช้ เพื่อจับความสนใจของผู้ซื้อในยุคนี้ ปราฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับหลายกลุ่มธุรกิจ รวมไปถึง “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ด้วยเช่นกัน
มาสำรวจกันว่ามีเทคโนโลยีการตลาดดิจิทัลใดที่น่าจับตามองในปีนี้บ้าง
1. Big Data
ในแต่ละวัน มนุษย์สร้างข้อมูลดิจิทัลขึ้นมาจำนวนมหาศาล สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว ข้อมูลเหล่านี้คือสมบัติล้ำค่าที่สามารถนำมาใช้สำหรับทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า และแนวโน้มของตลาด เพื่อนำไปปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด และสร้างผลกำไรให้ธุรกิจ
ในปี 2018 นี้ Big Data จะปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเผยให้เห็นข้อมูลจริงที่โปร่งใส ทั้งในแง่ภาพรวมของตลาด และข้อมูล Demographic ของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจกำหนดเป้าหมายของตัวเองได้ชัด และตัดสินใจวางกลยุทธ์การตลาดได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ตัวแทนขายที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของลูกค้า มาวางแผนส่งมอบเนื้อหาที่ตรงใจ ในเวลาที่ใช่ ได้อย่างแม่นยำ
2.VR และ AR
โจทย์ยากอย่างหนึ่งของคนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการเห็นโครงการ หรือสถานที่จริงก่อนตัดสินใจซื้อ ถ้าเป็นยุคก่อนคงต้องยกหูโทรศัพท์เพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและค่าเสียเวลาทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขาย กว่าจะปิดดีลการขายได้สักครั้ง
โชคดีที่ยุคนี้เรามีเทคโนโลยี VR และ AR ที่ทำให้ลูกค้า “เห็นภาพ” ของโครงการ/ห้องตัวอย่าง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่จริง สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และกระตุ้นการตัดสินใจ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ แต่ในประเทศไทยยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ดังนั้นในปีนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถนำเทคโนโลยีนี้มาให้บริการได้ก่อน ก็จะชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
3.Marketing Automation
Marketing Automation เป็น Digital Marketing Thechnology ที่น่าจับตามองอย่างมากในปีนี้ ที่ผ่านมาเราอาจเห็นการนำมาใช้ในธุรกิจ E-Commerce เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่จริงๆ แล้ว Marketing Automation สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน
Marketing Automation คืออะไร? มันคือซอร์ฟแวร์ที่สามารถทำการตลาดแทนคุณได้โดยอัตโนมัติ เพียงแค่ป้อนคำสั่งไว้ แล้วให้ระบบทำงานแทน ตั้งแต่การมองหาลูกค้าใหม่ ส่งอีเมลนำเสนอสินค้า และบอกคุณว่าใครมีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าของธุรกิจคุณ พร้อมบริหารความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้น กระทั่งนำไปสู่การขาย ทำให้ประหยัดทั้งเวลา ต้นทุน และแรงงานในการจัดการงานที่ยุ่งยากทั้งหมดนี้
4.Hyperlocal Content
ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของ Search และ Social Platform ในการระบุกลุ่มเป้าหมายตาม Location ทำให้ Hyperlocal Content จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ Digital Marketing ที่จะมองข้ามไม่ได้ในปี 2018 นี้
ลองนึกถึงการส่งเนื้อหาในทำนอง แนะนำร้านอาหารชื่อดังในย่านนั้น หรือแหล่งช็อปปิ้งใกล้เคียงกับที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ของคุณตั้งอยู่ ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในบริเวณนั้น วิธีการเช่นนี้มักจะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะเป็นการสื่อสารที่เจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
5.Mobile Device
“Gen Y” หรือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18-37 ปี เป็นกลุ่มที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องจับตา เพราะเป็นกลุ่มตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นวัยทำงานที่เริ่มมีกำลังซื้อ
คนกลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีไอทีและอินเตอร์เน็ต จากสถิติพบว่า Gen Y เป็นกลุ่มคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุด และส่วนใหญ่เป็นการใช้งานผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะประสบความสำเร็จในการทำการตลาดกับคนกลุ่มนี้ คือธุรกิจที่ทำให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้โดยสะดวกและเป็นประโยชน์มากที่สุด
โดยสรุปแล้ว ปี 2018 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายความอยู่รอดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมดิจิดัลอย่างเต็มตัว ทั้งนี้ “เทคโนโลยี” จะเข้ามามีบทบาทสำคัญทั้งในส่วนของ “ผู้ซื้อ” และ “ผู้ขาย” ดังนั้น ธุรกิจที่ปรับตัวได้ก่อนและนำเทคโนโลยีมาใช้ได้ถูกทางจะเป็นผู้ชนะในสนามการแข่งขันนี้