ถอดสูตรสำเร็จ ! ทำแคมเปญการตลาด ที่งาน “TikTok Winning Formula”

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

บทความน่าอ่าน

ถอดสูตรสำเร็จ ! ทำแคมเปญการตลาดบน TikTok ผ่านการทำคอนเทนต์ สู่การสร้างยอดขาย ที่งาน “TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion”

 

แบรนด์ที่ทำคอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok สามารถสร้างแบรนด์ให้เติบโตไปพร้อมกับปิดยอดขายได้จริงหรือ ? 

 

คำถามนี้ได้เฉลยและถูกตอบคำถามเป็นอย่างดี ในงาน TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion ที่ Heroleads Asia ร่วมมือกับ TikTok ชวนทุกคนมาวิเคราะห์และถอดสูตรสำเร็จในการทำการตลาดบน TikTok ซึ่งมีคีย์สำคัญอย่างการทำ Content หรือ Creative ที่ ‘Effective’ พร้อมแชร์พฤติกรรมการใช้งานแพลตฟอร์มและพฤติกรรมการช้อปของกลุ่มเป้าหมายที่ทำให้เซอร์ไพรส์อยู่พอตัว และแน่นอนที่พลาดไม่ได้ (และไม่อยากให้พลาด) กับเทคนิคการทำการตลาดแบบ Full Funnel ที่ต้องบอกเลยว่านาทีนี้ TikTok ค่อนข้างได้เปรียบ ! แบรนด์ที่ยังลังเลห้ามชะล่าใจเป็นอันขาด

 

ซึ่งในงานนอกจาก Heroleads Asia – Nextgen Performance Agency ที่มีประสบการณ์ในการรันแคมเปญให้ลูกค้ามาทุก Tier มีความเข้าใจการตลาดดิจิทัลอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว ยังมี Guest Speakers มาร่วมแชร์ข้อมูลและเรื่องราวที่น่าสนใจตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม วันนี้เราจึงขอสรุปเนื้อหาสาระสำคัญมาให้ 7 ข้อ ตามไปอ่านกันได้เลย

 

1. Heroleads Asia ขับเคลื่อนความสำเร็จให้ธุรกิจ ต้องเข้าใจแนวทางใหม่ในการทำ Digital Marketing

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

 

แน่นอนว่าการทำการตลาดแบบเดิมอาจจะไม่ตอบโจทย์สิ่งที่แบรนด์ต้องการได้ทั้งหมด และอาจไม่พอที่จะอุดรอยรั่วในยุคที่ Social Media และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไว ดังนั้น การปรับตัวสู่การทำการตลาดดิจิทัลในแนวทางใหม่เป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่ Heroleads Asia นำมาใช้ และวางกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างรอบคอบ โดยเมื่อผสมผสานระหว่าง Media Expertise, Digital First Creatives และ Data & Analytics จะช่วย Enhanced Impact หรือสร้างผลกระทบที่เพิ่มขึ้นในการทำการตลาดดิจิทัล ซึ่งนำไปสู่การตลาดที่ผสมผสาน (Integrated Marketing Approach) การใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Creativity) และการใช้สื่อสำหรับทั้ง Full Funnel เพื่อให้แบรนด์ได้ ROI สูง (Full Funnel Media for High ROI) ซึ่งจุดนี้จะแตกต่างกับการทำการตลาดแบบเดิม ที่หากแบรนด์ต้องการทำ Conversion จะโฟกัสที่ Lower Funnel เพียงอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้วกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างยอดขายในปัจจุบัน คือการเชื่อมทั้ง Upper Funnel, Mid Funnel และ Lower Funnel ซึ่งเป็นสิ่งที่ Heroleads Asia แนะนำ พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับแบรนด์มาโดยตลอด

 

ที่กล่าวแบบนี้ได้ เพราะ Heroleads Asia เป็น Performance Agency ที่แรก และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีประสบการณ์ด้านการทำโฆษณาออนไลน์กว่า 10 ปี ดูแลลูกค้ามากว่า 5,600 แคมเปญ พร้อมทีมงานคุณภาพที่เรียกกันว่าฮีโร่กว่า 120 ท่าน มาพร้อม Skill และความเชี่ยวชาญ ทำให้ Achieved Goal ของลูกค้าที่ตั้งไว้ได้

 

และหากพูดถึงการทำการตลาด TikTok ทาง Heroleads Asia ไม่เพียงแนะนำให้แบรนด์ใช้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ Heroleads Asia ในฐานะ Agency Partner เอง ก็มีการนำ Short Form Vertical Videos หรือ SFVV มารันในแพลตฟอร์มเพื่อทำ A/B Testing หาวิดีโอที่ได้ไปต่อ ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่า TikTok มี Opportunity ทางการตลาดค่อนข้างสูง

 

Discover Opportunities : TikTok ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มมาแรง !

  • สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือ TikTok is the new ‘Eye-Level’ ซึ่งก็คือการที่ TikTok เป็น Social Media Platform เมื่อ Users เข้าแอปฯ แบรนด์จะถูก ‘Spot’ ได้ง่ายขึ้น มีโอกาสที่ลูกค้าจะ Add to cart หรือซื้อสินค้าของแบรนด์ได้ ซึ่งหากใครคุ้นเคยกับธุรกิจ Retail จะทราบได้ทันทีว่า Eye-Level คือโซนที่เมื่อลูกค้าเดินเข้าห้างฯ จะให้ความสนใจ และมีโอกาสสูงที่สุดที่สินค้าในโซนนั้นจะถูกซื้อ

 

  • ในด้านของ ‘For You Page’ หรือหน้าฟีด ‘สำหรับคุณ’ ที่จะแสดงคอนเทนต์ตามความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งด้วยความที่แพลตฟอร์มมีวิธีการเล่นเป็นแบบ Scroll ขึ้นลงแบบ 1 by 1 จะทำให้ผู้ใช้งานให้ความสนใจได้ง่ายมากขึ้น และหน้า For You นี้เอง Users สามารถดูคอนเทนต์ได้ทั้งจากครีเอเตอร์ และจากทางแบรนด์ รวมถึง Ads ของแบรนด์อีกด้วย 

 

  • นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังใช้ TikTok เป็นหนึ่งในโซเชียล มีเดียในการ ‘Search’ หาข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะคน Gen Z ซึ่งหากแบรนด์มี Visibility ในมุมของ TikTok Shop จะสามารถถูกเสิร์ชขึ้นมาเจอได้ ดังนั้นแบรนด์สามารถทำ Search Ads เพิ่มเติม ซึ่งสุดท้ายเมื่อผู้ใช้งานเข้ามาดูคอนเทนต์ก็อาจนำไปสู่การซื้อสินค้าได้

 

  • ในแง่คอนเทนต์ที่ผู้ใช้งานเสพบน TikTok ผู้ใช้งานไม่ดูแค่เพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้หมวดหมู่ของคอนเทนต์ที่เติบโตเร็วในช่วงที่ผ่านมาบนแพลตฟอร์มนี้ แบ่งเป็น 2 เทรนด์สุดยูนีค คือ 

 

    1. Education + Entertainment หรือ Edutainment คอนเทนต์ที่เป็นการนำข้อมูลที่มีเนื้อหาเยอะ เข้าใจยาก มาย่อยให้เข้าใจง่าย และมีความสนุกขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หมวดหมู่ Financial Services
    2. Shopping + Entertainment หรือ Shoppertainment แบรนด์ทำคอนเทนต์ แล้วผู้ใช้งานรับชม และลงท้ายด้วยการช้อปสินค้า ทำให้แบรนด์มีโอกาส Lead ไปสู่การปิดการขายได้ ตัวอย่างเช่น หมวด Beauty & Personal Care หรือ Tech & Electronics

 

และล่าสุด TikTok ยังแชร์อีกด้วยว่า สินค้าที่มีราคาสูง (High Price Point) ในท้องตลาดสามารถปิดการขายบนแพลตฟอร์มได้แล้ว และ Users ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถในการซื้อ (Rich) อายุน้อย (Young) และช้อปได้ทุกที่ (Shop Everywhere) รวมถึงเทรนด์ Spillover Effect ที่เมื่อผู้ใช้งานเห็นคอนเทนต์ทางออนไลน์ แล้วเกิด Demand สุดท้ายไป Convert เป็นยอดขายที่ฝั่ง Offline ก็มีให้เห็นเช่นกัน

 

TikTok จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ Entertainment พบกับ Conversions อย่างปฏิเสธไม่ได้ !

 

2. TikTok แนะนำแบรนด์ทำ Full-Funnel Marketing สร้าง Growth ยั่งยืนกว่า

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

 

หากแบรนด์มีคำถามว่า การทำการตลาดเฉพาะ Lower Funnel สามารถช่วยให้แบรนด์เติบโตแบบยั่งยืนได้จริงหรือ ? ทาง TikTok แนะนำให้แบรนด์ทำการตลาดแบบ Full Funnel เพราะลูกค้าจะซื้อสินค้าเมื่อพร้อม ไม่ใช่แค่เพียงเวลาที่แบรนด์อยากขายเท่านั้น และการทำ Branding เพิ่มเติมก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสำหรับ Brand Sale Funnel แบรนด์สามารถทำการตลาดได้ตาม Objective ด้วย TikTok Solutions

 

  • Upper Funnel : Exposure, Multi Exposure โฟกัสที่การขยายฐานลูกค้า และหาลูกค้าใหม่ แบรนด์ควรเน้นไปที่การทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ และเพิ่มโอกาสที่ผู้บริโภคจะเห็นแบรนด์ได้บ่อยครั้งขึ้น เช่น การทำ Top View, Reach & Frequency เพื่อให้แบรนด์อยู่ใน Top of Mind
  • Mid Funnel : Generate Interest ดูว่าแบรนด์มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคบ้าง เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาน่าสนใจ และสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้ โดยอาจทำ Community Interactio
  • Lower Funnel : Purchase สเตจที่ชัดเจนเลยว่าต้องการเปลี่ยนผู้ซื้อครั้งแรกให้เป็นลูกค้าประจำ และกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ ที่เราเชื่อว่าทุกแบรนด์คุ้นเคยเป็นอย่างดีนั้น หากอยาก Drive Sales ใน Funnel นี้ ทาง TikTok ก็มี Solution สำหรับแบรนด์มากมาย เช่น Lead Generation, Shop Ads, Message Ads ฯลฯ ซึ่งหากแบรนด์สนใจ สามารถติดต่อทาง Heroleads Asia ได้เลย

 

3. Content Planning อีกหนึ่ง Key สู่การสร้างคอนเทนต์ขยายโอกาสให้แบรนด์เติบโต

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

 

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับการทำการตลาดบน TikTok แบบ Full Funnel คือการทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจนจับใจผู้ชม ดังนั้นจึงต้องวาง Strategy ให้ดีตั้งแต่การ Planning โดยแผนการสร้างคอนเทนต์ที่ขาดไม่ได้ ก็คือ การวาง Structure, Content Pillar, วางความถี่ในการโพสต์ที่เหมาะสม และการเลือกสื่อสารคอนเทนต์ผ่านผู้เล่า 3 ไทป์ ที่เหมาะสมกับโปรดักส์

 

  • การวาง Content Structure
    เริ่มกันที่การวางโครงสร้างของคอนเทนต์ อย่าง Content Guideline และ Content Pillar ว่าในแต่ละเดือนควรลงคอนเทนต์ประเภทไหนบ้าง โดยหลัก ๆ สามารถแบ่งได้ 4 แบบ คือ Everyday Content คอนเทนต์ที่ลงได้ทุกวัน, Seasonal Content คอนเทนต์ที่เล่นตามเทศกาลต่าง ๆ, Campaign Content ที่เจาะไปที่การนำเสนอโปรดักส์ใหม่ กิจกรรมสร้าง Engagement และคอนเทนต์โปรโมชัน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับ Content Plan ของแต่ละแบรนด์ด้วย และแบบสุดท้าย Trend Catch Up Content ที่หยิบเทรนด์ต่าง ๆ มาเล่นเป็นคอนเทนต์โดยเชื่อมโยงกับโปรดักส์
  • ความถี่ในการลง Content ก็สำคัญ
    เพื่อสร้างการมีตัวตนอย่างต่อเนื่องบนโลกออนไลน์ การลงคอนเทนต์สม่ำเสมอเป็นอีกสิ่งที่แบรนด์จะต้องโฟกัสไม่แพ้กัน มองง่าย ๆ อาจวางให้ในแต่ละเดือน มีคอนเทนต์ Everyday 1 – 2 ครั้ง/สัปดาห์ ส่วนคอนเทนต์ Seasonal ควรมีอย่างน้อย 1 – 3 ครั้ง/เดือน ตามด้วยคอนเทนต์ Trend Catch Up ที่ควรวางให้มีประมาณ 1 – 2 ครั้ง/2 สัปดาห์ ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ Campaign Content จะขึ้นอยู่กับแพลนของแต่ละแบรนด์ แต่ก็ควรลงอย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน
  • นำเสนอรูปแบบคอนเทนต์ผ่าน Creator 3 ไทป์
    การทำคอนเทนต์บน TikTok แบรนด์สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้คอนเทนต์สื่อสารออกมาผ่านการนำเสนอของ Creator รูปแบบไหน เช่น Brand Content คอนเทนต์ที่แบรนด์นำเสนอด้วยตัวแบรนด์เอง, KOL Content นำเสนอผ่าน KOL หรือ Influencer หรือ UGC Content ที่นำเสนอผ่านกลุ่มลูกค้าที่ใช้จริง ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือในตัวสินค้าได้มากกว่า แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำ และเราแนะนำอย่างมาก คือ ควรผลิตคอนเทนต์ที่ใช้ทั้ง 3 ประเภทร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ Always on หรือคอนเทนต์ Paid Ads 

 

สรุปง่าย ๆ คือ เพื่อให้สร้างคอนเทนต์ที่ได้ประสิทธิภาพบน TikTok  และเก็บครบทุก Customer Journey ของลูกค้า แบรนด์ควรวางแผนคอนเทนต์แบบครบลูป และมองให้ทะลุทุกสเตจ ทั้ง Awareness, Consideration และ Conversion เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด 

 

4. Utilize Content เพื่อนำมา A/B Testing ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำคอนเทนต์

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

 

ถึงแม้จะมีการวาง Strategy และทำคอนเทนต์อย่างดีแล้ว แต่แบรนด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำการคอนเทนต์บน TikTok ให้ดีขึ้นได้อีก ด้วยการ Utilize คอนเทนต์อย่างชาญฉลาด โดยใช้วิธีการนำคอนเทนต์มา Test ในการทำการโฆษณาแบบ Paid Ads ซึ่งทาง Heroleads Asia ได้แชร์ Performance Creative Workflow ที่แสดงให้เห็นตั้งแต่จุดเริ่มต้นอย่างการวางกลยุทธ์การทำคอนเทนต์ (Creative) และ Production จากนั้นเข้าสู่การ Testing ด้วยการนำส่ง Ads หลาย ๆ รูปแบบที่มีความแตกต่างกันไปสู่ Users หรือลูกค้า และเมื่อช่วงการทดสอบจบลง ก็เข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ Performance เพื่อนำคอนเทนต์มา Test อีกครั้ง และวนตามโฟลว์เดิมต่อไป

 

วิธีการ Test ที่แนะนำ คือ วาง Ad Concept ที่มี Big Idea ซึ่งเป็นแนวคิดรวมของวิดีโอทั้งหมด จากนั้นนำคอนเทนต์วิดีโอมาปรับ Hook ซึ่งอาจเป็น Key Message หรือภาพ ที่แบรนด์อยากสื่อสารใน 2 – 5 วินาทีแรก โดยให้ทำ Hook แตกต่างกันอย่างน้อย 2 Hooks สำหรับแต่ละ Ad เพื่อให้สามารถนำไปทำ A/B Testing และหาผลลัพธ์ว่า Video Content ไหนที่จับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ 

 

นอกจากฝั่งแบรนด์ที่หาคอนเทนต์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และอยากให้นำไปสู่การเกิด Conversion หรือการซื้อสินค้า TikTok ยังพบว่า เมื่อเทียบระหว่างผู้ใช้งาน TikTok (TikTok Users) กับผู้ที่ไม่ได้ใช้งาน (Non-TikTok Users) Tiktok Shoppers เป็นกลุ่มลูกค้าที่ Spend เยอะ โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ลูกค้ามักจะเก็บ Shopping Budget ไว้ช้อป ซึ่งยอดเฉลี่ยในการใช้จ่ายนั้นสูงกว่า Non-TikTok Users ถึง 1.5 เท่า* และแบ่งออกได้หลากหลายหมวดหมู่ เช่น Beauty & Personal Care, Furniture, Mum & Baby จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ในการสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าบนแพลตฟอร์ม

 

Source: TikTok commissioned study conducted by Kantar Profile on shopping behaviours during shopping seasons among n=750 TikTok users and non-users in TH, 2024

 

5. A/B TESTING – VIDEO CAMPAIGN บน TikTok ช่วยลด CPL ได้ถึง 30%*

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

 

นอกจากจะเป็นพารต์เนอร์กับทาง TikTok แล้ว Heroleads Asia ยังเป็น User เช่นกัน เพราะล่าสุดมีการทำ A/B Testing ใน Video Campaign ด้วยการนำ Short Form Vertical Videos (SFVV) 3 คลิป ที่มี Hook หรือ Key Message แตกต่างกัน แต่ใช้ Budget ในการรันแคมเปญเท่ากันมาหา Ad Creative ที่ดีที่สุด ซึ่งผลลัพธ์หลังจากเทสต์ ทำให้ CPL ลดลงถึง 30%* พร้อมทั้งต่อยอดในการนำ Best Practice นี้ ไป Test ต่อในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นถ้าแบรนด์ไหนสนใจทำคอนเทนต์วิดีโอ Heroleads Asia แนะนำให้ทำวิดีโอสั้น หรือ Short Videos ที่มีความยาวไม่เกิน 60 วินาที (ขึ้นอยู่กับ Industry) เพราะจะตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของ Users ในปัจจุบัน

 

แต่หากแบรนด์ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำการตลาดกับ TikTok อย่างไร ทาง Heroleads Asia มี Full-Service Solution และความเชี่ยวชาญในการทำ TikTok Marketing Solutions ไม่ว่าจะเป็นการวางกลยุทธ์ การสร้างไอเดียคอนเทนต์ การเลือก Influencer รวมถึงการ Optimize โฆษณา และยังสามารถ Execute ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมต่อทั้งฝั่ง Creative และ Media เข้าด้วยกัน ซึ่ง Service ที่ Heroleads Asia พร้อมช่วยธุรกิจคุณ ยกตัวอย่างเช่น

 

  • TikTok Creative Strategy & Planning วางแผนและวางกลยุทธ์ในการทำ Creative บน TikTok ทั้ง Content Marketing และการทำ SFVV ทำ Hook ที่ต่างกัน เพื่อให้ได้ครีเอทีฟที่หลากหลายมากขึ้น สามารถนำมาทำ A/B Testing ได้
  • TikTok Creator Strategy & Selection วางกลยุทธ์และเลือกครีเอเตอร์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ ด้วยบริการ Full Influencer Management & Partnership
  • Media Strategy & Planning วางแผนและวางกลยุทธ์ด้านการใช้สื่อ โดยมีการ Optimize TikTok Ads ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ ครอบคลุมครบทั้ง Full Funnel

 

6. กะเทาะกลยุทธ์การทำการตลาดบน TikTok ที่ทำให้แบรนด์ Dog Days ครองใจ ด้วยการใช้ KOL และ Live

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

พาร์ตสุดท้ายของงาน TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion ยังมีการพูดคุยกับลูกค้าที่ทำการตลาดบน TikTok ซึ่ง Heroleads Asia ดูแลแบบครบวงจร หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ Dog Days แบรนด์อาหารสุนัข ที่ Pet Lover และคนเลี้ยงน้องหมา ต้องเคยเห็นคอนเทนต์ TikTok ของแบรนด์ผ่านตากันบ่อยครั้ง

 

เบื้องหลังการทำการตลาดที่ทำให้ Dog Days เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และ Achieved Goal นั้น คือการวางกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Strategy หลัก คือการใช้ KOL ประเภท Nano และ Micro เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า รวมถึงการวางแผนว่าในแต่ละ Quarter จะโฟกัสที่โปรดักส์ไหน เพื่อให้สอดคล้องกับ KOL 

 

และเพื่อให้ลีดส์ไปถึงสเตจ Conversion สร้างยอดขาย Dog Days มีการใช้ Tools ใน TikTok Shop ด้วยการใช้คูปองส่วนลด และ Affiliate เป็นหลัก และมีการวางคอนเทนต์รีวิวของทั้งฝั่งแบรนด์และอินฟลูฯ ให้มีโปรโมชันที่ซัปพอร์ตทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ซึ่งส่วนลดจัดเต็มนี้เอง เป็นอีกช่องทางที่ช่วยดึงลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามาซื้อสินค้าได้

 

ส่วนในฝั่งของ Heroleads Asia ที่ดูแลแคมเปญ แชร์ว่าจุดแรกที่แบรนด์โฟกัสคือการ Live เพื่อเก็บยอด View สำหรับสเตจ Awareness โดยระหว่างทาง ฝั่งเอเจนซี่จะมีการสอบถามยอดขาย และประชุมกับแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ หลังจากได้คนดูแล้ว ปัจจุบันแบรนด์กำลังโฟกัสที่สเตจ Conversion ซึ่งทาง Heroleads Asia มองว่าอาจทดลองเล่นคอนเทนต์ในช่วง Double Digit และในอนาคตอาจปรับกิมมิกโดยการดึงเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาดึงดูดให้คนดู Live นานขึ้นได้

 

7. แบรนด์ฝั่งการเงิน Central The 1 เจาะกลุ่มลูกค้า Younger Gen ด้วย Lifestyle Content ผ่าน Short Form Vertical Videos

TikTok Winning Formula : From Content Creation to Conversion

 

สำหรับแบรนด์ Central The 1 ใช้ Opportunity ของแพลตฟอร์ม TikTok ที่สามารถอธิบายเรื่องยากอย่างการใช้งานบัตรเครดิต ให้เข้าใจง่ายใน 40 วินาที บน TikTok หรือทำเป็นแคมเปญวิดีโอสั้นได้ ดังนั้นแบรนด์จึงสามารถส่งสารได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายในแบบที่สนุกกว่าเดิม ซึ่งตรงกับไดเรกชันของแบรนด์ที่ต้องการเจาะกลุ่ม Younger Generation การทำแคมเปญโฆษณาแบบวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์มนี้จึงช่วยให้ได้ Community ของลูกค้าที่อายุน้อยลง และทำให้ได้ Potential Leads เข้ามามากขึ้น

 

ส่วนพาร์ตของ Heroleads Asia เพื่อให้แบรนด์สามารถเจาะกลุ่มลูกค้า Younger Generation หรือ Gen Z จึงได้วางแผนนำ SFVV หรือ Content Marketing มาใช้ในปีนี้ นอกจากนั้นจะมีการปรับจูนกับแบรนด์ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอด เช่น การทำวิดีโอที่เป็น Best Practice เพื่อดึงความสนใจจาก Audience ตั้งแต่ 3 – 5 วินาทีแรก หากการใช้โปรดักส์เป็นตัวชู ก็อาจทำให้คนเลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว จึงปรับแนวทางการนำเสนอด้วยการทำคอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น แต่ยังคงสอดแทรก Benefits ของบัตรเครดิต ทั้งนี้ยังคง Align ไปกับ Objective ของแบรนด์เช่นเดิม

 

ในด้านของการ Maintain Campaign ให้อยู่ใน Eye-Level ของ Users และ Challenge ของทั้งแบรนด์ Dog Days และ Central The 1 นั้น ทาง Heroleads Asia มีการซัปพอร์ตส่วนนี้ด้วยการรับ Feedback จากทางลูกค้าอยู่เสมอ พร้อมกับนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ นำ Tools มาใช้ รวมถึงการปรับ Strategy เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่แบรนด์ตั้งไว้

 

สรุปสาระสำคัญที่อัดแน่นจากงานเรียบร้อยแล้ว แบรนด์ไหนที่มองเห็น Opportunity และสนใจทำการตลาดบน TikTok แพลตฟอร์มมาแรง Heroleads Asia เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลการทำแคมเปญการตลอดบน TikTok เพื่อช่วยให้ธุรกิจคุณไปถึง Business Goal ที่วางไว้มากที่สุด ติดต่อเราตอนนี้ ที่ https://heroleads.asia/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-038-5220

Heroleads Asia

Recent posts

SEO-On-Page_Oct-2024-Article-1_Blog

ทำไมหลายบริษัทยังเลือกที่จะทำการตลาดด้วย SEO ?

ทำไมหลายบริษัทย...
TikTok vs. Instagram Reels แพลตฟอร์ม Short Video ไหน ใช่กับธุรกิจ

เปรียบเทียบ TikTok vs. Instagram Reels แพลตฟอร์ม Short Video แบบไหน ใช่สำหรับธุรกิจกว่ากัน !

เปรียบเทียบ Tik...
ทำความรู้จักโฆษณา TikTok แบบเข้าใจง่ายในปี 2024

ตามให้ทันเกม ! ทำความรู้จักโฆษณา TikTok (Tiktok Advertising) แบบเข้าใจง่ายในปี 2024

ตามให้ทันเกม ! ...

ปรึกษาแผนการตลาด
กับผู้เชี่ยวชาญของเรา

กรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับ เพื่อรับคำแนะนำ และ Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณ พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นแคมเปญ