Digital Marketing Trend 2021 ในมุมมองนักการตลาดสาย Performance
บทความน่าอ่าน
ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ธุรกิจที่ปรับตัวมาสู่ออนไลน์ได้เร็ว กลายเป็นผู้ได้เปรียบในการแข่งขัน แล้วปีนี้ล่ะ มีอะไรที่คนทำธุรกิจต้องจับตาดูบ้าง? เราถามความเห็นจากนักการตลาดสาย Performance Marketing ของ Heroleads ไปดูกันค่ะว่าพวกเขามอง Digital Marketing Trend 2021 ไว้ยังไงกัน
เกมส์ของยักษ์ใหญ่ ในตลาด “E-commerce”
ถ้าปี 2020 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ปี 2021 ก็จะเป็นปีแห่งการเติบโต เราจะได้เห็นแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่พึ่งพาการขายแบบ traditional retail ผ่านทางหน้าร้าน ผันตัวมาขายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น พร้อมกับสินค้าใหม่ ๆ และวิธีการนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ
ส่วนแบรนด์เล็ก หรือเแบรนด์ที่กำลังปั้นตัวอยู่ ปีนี้จะต้องวางแผนการนำเสนอสินค้าให้แตกต่าง จะหวังพึ่งพาการทำโฆษณาเพียงอย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป เพราะในตลาดมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง การนำเสนอสินค้าให้แตกต่าง เลือกช่องทางและเครื่องมือการทำตลาดใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการเติบโตในปี 2021 นี้
สำหรับเทรนด์ที่น่าจับตามองในปีนี้ คงเป็นการที่แบรนด์หันมาทำเว็บไซต์ E-Commerce ของตัวเอง ที่เรียกว่า brand.com และแข่งขันกันสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหมือนเข้ามาช้อปที่ร้านค้าจริง ทั้งหน้าตาร้านค้า, สินค้า online exclusive, การจัดส่งสินค้าที่สร้างความตื่นเต้นให้กับ Shopper ที่รอแกะกล่องที่บ้าน ฯลฯ แบรนด์ไหนที่ยังขายผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือ Lazada, Shopee อย่างเดียวอยู่ อาจจะเสียลูกค้าให้กับแบรนด์ที่มีเว็บไซต์พร้อมกว่า
ปีนี้จะรอด ไม่ใช่แค่ไวอย่างเดียว ต้องมั่นใจว่าเครื่องมือพร้อมด้วย !
– ปุณณ์ณิชญ์ สุวัตศรีสกุล –
Senior ECommerce Solution Specialist
เป้าหมายของการทำ “SEO” ไม่ใช้แค่การติดหน้าแรก
ปี 2020 ที่ผ่านมา การหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แบรนด์ต่าง ๆ ก็หันมาทำเว็บไซต์ E-commerce กัน ทำให้ SEO เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำให้เว็บไซต์ติดอยู่บนหน้าแรกของ Google หรือ Search Engine อื่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการขาย จากการที่ลูกค้าค้นหาเจอแบรนด์ของเราก่อนแบรนด์อื่น
เทรนด์ SEO ในปี 2021 นั้น เป้าหมายจะไม่ได้หยุดอยู่แค่การติดหน้าแรก Google เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน User Experience (UX) และ User Behavior รวมไปถึงการ Analyze Data ของเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงเว็บให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้นหา ทำให้ใช้งานได้ง่าย ตอบสนองได้รวดเร็ว รวมไปถึงการ Optimize เว็บไซต์สำหรับ Mobile SEO ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์ที่ไม่ควรละเลย
– มนสิการ ใจบุญ –
SEO Project Manager
“GA4”เส้นทางต่อไปของ Google Analytics
กลางเดือนตุลาคมปี 2020 Google Analytics มีการอัปเดตใหม่ เป็นเวอร์ชัน 4 (GA4) หลังจากที่ใช้เวอร์ชันเดิมมาอย่างยาวนานถึง 8 ปี!
จุดเด่นของเวอชันใหม่นี้คือ เป็นการรวม data จาก Website และ Mobile Application มาแสดงผลใน Report เดียวกัน ทำให้เราสามารถติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ได้ทั้งจากคอมพิวเตอร์และมือถือ
นอกจากจะดู Journey ข้าม Platform ได้แล้ว ตัว GA4 ก็ยังสามารถเก็บ Data จากทุก Action ของ User ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การคลิก Link ไปนอก Website, เปอร์เซ็นต์การเลื่อนดู Content ในแต่ละหน้า หรือ คลิกดาวน์โหลด Whitepaper เป็นต้น
และจากข้อมูลเหล่านี้ ทาง GA4 ก็เพิ่มฟีเจอร์ให้เราสามารถสร้าง Custom Report ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งนับว่ายืดหยุ่นกว่าเวอร์ชันปัจจุบันพอสมควร
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ User Privacy ที่ในเวอชันนี้จะใช้ Cookies น้อยลง แต่ใช้ Machine Learning มาช่วยแสดงผลพฤติกรรมของผู้ใช้เว็บไซต์ได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
จากการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมานี้ คาดว่าในปี 2021 เราจะได้เห็นเหล่า Web Analyst ตื่นตัวกับการพัฒนาทักษะของตัวเองกันมากขึ้น เนื่องจากตัว GA4 ต้องการการ implement ที่แตกต่างจากเวอชันปัจจุบันโดยสิ้นเชิง
– เกตุนภา วิไลประสิทธิ์พร –
Analytics Project Manager
“เทคโนโลยี” จะช่วยให้แบรนด์ตัดสินใจได้ดีขึ้น
เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ online advertising เป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ต้องทำ ไม่ว่าจะมีความพร้อมหรือไม่ ทำให้การแข่งขันระหว่างแบรนด์สูงมากขึ้นด้วย
ปีนี้แบรนด์น่าจะเพิ่มพื้นที่ในการโฆษณาเพื่อหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เราจะได้เห็น Advertising Platform ตัวย่อย เช่น LINE ที่เป็น Messenger App, TikTok ที่มีกลุ่ม Audience อายุน้อย หรือแม้กระทั่ง LinkedIn เข้ามามีบทบาทในการลงโฆษณามากยิ่งขึ้น และแบรนด์จะยิ่งต้องการข้อมูลมากขึ้นว่า ในบรรดาแพลตฟอร์มโฆษณาทั้งหมดที่ใช้ แพลตฟอร์มไหนให้ผลลัพธ์ดีที่สุด และควรเลือกใช้เงินกับที่ไหน ตรงนี้นี่แหละที่ Performance Tracking Technology จะเข้ามามีส่วนสำคัญ ในการรายงานผลข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ
นอกจากนี้ การที่ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ความสำคัญกับ Data Privacy มากขึ้น การวัดผลและการ target กลุ่มเป้าหมายก็จะยากขึ้นด้วย แบรนด์อาจจะต้องหาวิธีการใหม่ในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลลูกค้าที่มีอยู่แล้วให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ดังนั้น การทำ Customer Relationship Management (CRM) จะเป็นสิ่งที่แบรนด์มองหากันมากขึ้น และเราจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้ตัดสินใจและทำงานได้ฉลาดขึ้น
– ฤทธิรงค์ ฐานดี –
Head of Advertising Technology
“Google Shopping Ads” ลูกเล่นใหม่เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ E-commerce
การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส (โควิด-19) ทำให้ช่องทางซื้อ-ขายสินค้าย้ายมาอยู่บนออนไลน์ และ Search Engine กลายเป็นช่องทางหลักที่ผู้ซื้อใช้ค้นหาสินค้าที่ตัวเองต้องการ
ดังนั้นในปี 2021 Search Campaign จะยิ่งสำคัญมากขึ้น และการแข่งขันก็จะยิ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม E-commerce
รูปแบบโฆษณาที่น่าสนใจในตอนนี้คือ Google Shopping Ads ที่สามารถแสดงรายละเอียดของสินค้าได้อย่างชัดเจน ทั้งรูปภาพ ราคา และลิงก์ไปยังหน้าเว็บที่ขายสินค้าได้ ปีนี้เราจะเห็นแบรนด์ใช้โฆษณา Google Shopping Ads มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ 1-2 ปีที่ผ่านมา
– นรวิชญ์ นามสุบิน –
Google Team Lead
“Lead Generation” ใครมีฐานข้อมูลอยู่ในมือ ได้เปรียบ
2021 เป็นปีแห่งการปรับตัวขององค์กรต่าง ๆ ที่ต้องรับมือการเข้ามาของ พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ที่ออกมาเพื่อป้องกันการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิชอบ หรือไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลนั้น ๆ ทำให้การเก็บข้อมูลเพื่อการโฆษณา (Tracking & Targeting) ทำได้ยากขึ้น
นอกจากนี้ ทาง Apple ก็เพิ่งออกนโนบายเรื่อง privacy ของผู้ใช้งานออกมา ซึ่งกระทบกับการยิงโฆษณาบน Facebook อย่างมาก เพราะระบบปฏิบัติการ iOS 14 นั้น ผู้ใช้สามารถเลือกปิดกั้นการติดตาม (Track) จาก Facebook และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ ทำให้การหา Target ไม่แม่นยำเหมือนแต่ก่อน และทำ Remarketing ได้ยากขึ้นหรืออาจจะไม่ได้เลย ค่าโฆษณาจึงแพงขึ้น ซึ่งกระทบกับธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก ที่ไม่มีฐานข้อมูลของตัวเอง
Heroleads เราเป็น Digital Marketing Company รายแรก ๆ ในไทย ที่ให้บริการ Lead Generation ทำให้เรามีฐานข้อมูลเยอะมากในเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ และเรายังมี Herovision ระบบ CRM ที่เก็บข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบ ทำให้ทีมของเราสามารถใช้ฐานข้อมูลที่มีอยู่เดิมนี้มา optimize แคมเปญได้ แม้ว่าจะถูกจำกัดการเข้าถึงข้อมูลก็ตาม
– วรรษพร อิงคตานุวัฒน์ –
Senior Digital Account Manager
“Content Marketing” ยุคใหม่ต้องใช้กลยุทธ์ Personalization
ปี 2021 ราศีที่จะมีเกณฑ์ปาดเหงื่อเรื่องงานสุด ๆ คือ ราศี…ที่ทำ Content Marketing จ้า (หวยออกทุกปี)
ปีนี้สมรภูมิคอนเทนต์จะเดือดกว่าเดิม เพราะการมาของ Covid-19 ทำให้มีผู้เล่นทั้งหน้าใหม่-หน้าเก่า เข้ามาอยู่ในทะเลคอนเทนต์เยอะมาก
ปีนี้สิ่งที่แบรนด์ต้องทำจริง ๆ จัง ๆ ซะทีคือ Personalized Content นำ Data ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย มาคิดคอนเทนต์ที่พวกเขาสนใจจริง ๆ ใครมีเว็บไซต์ หรือ Analyze Data ลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ จะได้เปรียบ เพราะคุณรู้ว่าลูกค้าคือใคร ชอบอะไร และตัดสินใจซื้อเพราะอะไร การคิดแบบ Personalized Marketing แบรนด์จะไม่ได้แค่ Awareness แต่ไปได้ถึง Conversion เลยด้วย
อีกกระแสที่มาแรงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว คือ Video Streaming หรือการ Live สด ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ทำให้คนว่าง ๆ เหงา ๆ เข้าถึงแบรนด์มากขึ้น (และตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น) ใครยังไม่ได้ลองช่องทางใหม่ ๆ เช่น Tiktok, Podcast ก็รีบตามเขาไปซะ เดี๋ยวจะตกเทรนด์!
– ปาวีณ รัสมี –
Creative Strategy Manager
Social Media Marketing สู่ “Conversational Marketing”
การระบาดของไวรัส Covid-19 กระตุ้นให้ผู้บริโภคต้องปรับตัวตามสถานการณ์ โดยเฉพาะคนยุค Gen X และ ฺBaby Boomer ที่กลายเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการเติบโตของ E-Commerce มากที่สุด
สื่อ Social Media ต่างๆ ก็มีการปรับแพลตฟอร์มของตัวเองให้สามารถซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ ยกตัวอย่างเช่น การเกิดขึ้นของ Facebook Marketplace และ Instagram Shopping เป็นต้น
ปีนี้ เราจะได้เห็นการสั่งซื้อสินค้าและปิดการขายผ่านแชทได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย ดังนั้นสิ่งที่แบรนด์ขาดไม่ได้ในการทำการตลาดออนไลน์ในปีนี้ คือการทำ “Conversational Marketing” เพื่อให้แบรนด์สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที และทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากกว่าเก่า ซึ่งตอนนี้เราก็เห็นแบรนด์ส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้ Chatbot กันอย่างแพร่หลาย และสามารถเพิ่มทั้งยอดขาย และความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี
– จิราภรณ์ รักษ์ศรี –
Senior Social Media Marketing Specialist
นี่คือ Digital Marketing Trend 2021 จากมุมมองทีมนักการตลาดออนไลน์ของเรา สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ ปีนี้ยังเป็น “ปีแห่งการปรับตัว” และ “เริ่มลองทำสิ่งใหม่” เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดในโลกยุคใหม่
อยากได้คำแนะนำว่าธุรกิจของคุณควรจะปรับตัวอย่างไรไม่ให้ตกเทรนด์เหล่านี้ ?
คุยกับทีมนักการตลาดของเราเพิ่มเติมได้ ที่นี่