CRO – Conversion Rate Optimization คืออะไร? ช่วยเพิ่มยอดขายออนไลน์ ได้ยังไง?

cro, Conversion Rate Optimization

วันนี้เตยจะมาพูดถึงเรื่อง Conversion Rate Optimization หรือ CRO คือการปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้กลายเป็นลูกค้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับธุรกิจที่ใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญในการขายสินค้าและบริการ

Conversion Rate Optimization (CRO) คืออะไร? สำคัญอย่างไร?

การทำ Conversion Rate Optimization พูดง่าย ๆ มันก็คือการเพิ่ม Conversion Rate ให้กับเว็บไซต์ของเรา (เพิ่มคนคลิกซื้อสินค้า, เพิ่มคนสมัครสมาชิก เป็นต้น) วิธีการคิดค่า Conversion Rate คือ

(จำนวนการสั่งซื้อสินค้า/จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด) x 100

ยกตัวอย่าง มีคนเข้าเว็บไซต์ของเรา 3,000 คน  ในจำนวนนี้มี 300 คน ที่คลิกซื้อสินค้า Conversion Rate ก็จะเป็น 10%   

Conversion Rate ยิ่งสูง แปลว่าเว็บไซต์ของเราตอบสนองลูกค้าได้เป็นอย่างดี แต่ถ้า Conversion Rate ต่ำ นั่นหมายความว่า ถึงเวลาจะต้อง Optimize ให้เว็บไซต์ของเราน่าสนใจ และตอบสนองการใช้งานได้ดีขึ้น

ปรับเว็บไซต์อย่างไรให้ได้ Conversion Rate สูงขึ้น ?

องค์ประกอบพื้นฐานที่จะช่วยให้ Conversion Rate สูงขึ้น ได้แก่

  •  เว็บไซต์สามารถตอบสนองการใช้งานได้ในทุกเบราวเซอร์และทุกแพลตฟอร์ม (Mobile, Tablet, Desktop)
  •  เว็บไซต์สามารถโหลดข้อมูลและรูปภาพได้อย่างรวดเร็ว (ไม่ควรเกิน 3 วินาที)
  • ปุ่ม Call to Action (CTA) สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน มีข้อความที่กระชับ เข้าใจง่าย และดึงดูดให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
  • ออกแบบแผนผังเว็บไซต์ให้เข้าใจง่าย ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลในส่วนต่าง ๆ ได้เร็วที่สุด

ขั้นตอนการทำ CRO

การปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น มีขั้นตอนพื้นฐานดังนี้

1. Research : หาสาเหตุของปัญหาและสิ่งที่ต้องการทดลองแก้ไข โดยกำหนด KPI ให้ชัดเจน

2. Hypothesis : ตั้งสมมติฐาน เพื่อทดสอบผลลัพธ์

3. A/B Testing : ทดลองเปลี่ยนบางอย่างที่ต้องการทดสอบ (โดยเปลี่ยนแค่ครั้งละ 1 อย่างเท่านั้น) เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจน

4. Analyze : วิเคราะห์ประสิทธิภาพการทดลอง 

Case Study : เพิ่มยอดขาย ด้วยการทำ CRO

เพื่อให้เข้าใจเห็นภาพมากขึ้น เตยมี case study เป็นเคสที่ Heroleads ทำ CRO ให้กับเว็บไซต์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพรายหนึ่ง โจทย์คือเขาต้องการให้คนกดปุ่มสั่งซื้อสินค้าผ่านทาง LINE และ Facebook มากขึ้น

วิธีการทำงานของเราก็คือ

1.Research : หาสาเหตุของปัญหา

จากการตรวจสอบ landing page ของสินค้าชนิดนี้อย่างละเอียดเราพบว่า ปุ่มสำหรับคลิกไปซื้อสินค้าผ่านทาง LINE และ Facebook ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เราต้องการให้เกิด conversion กลับถูกวางตำแหน่งไว้อยู่ด้านล่างสุดของ landing page ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่ user จะ scroll down ลงไปไม่ถึงจุดนั้น ลูกค้าอาจหาปุ่ม call to action ไม่เจอ จนทำให้เราเสีย conversion ไปได้ง่าย ๆ…อันนี้คือปัญหาที่เราคิดว่าควรแก้ไข

2. Hypothesis : ตั้งสมมติฐาน 

ในเมื่อจุดประสงค์ของเราคือ ต้องการให้ user กดปุ่มสั่งซื้อสินค้า เราจึงตั้งสมมุติฐานว่า ถ้าทำให้ปุ่ม call to action (ปุ่ม LINE และ Facebook) เลื่อนขึ้น-ลงตามการใช้งานของ user หรือที่เรียกว่า sticky bar ไม่ว่า user จะ scroll page ขึ้นหรือลง ก็จะเห็นปุ่ม call to action อยู่เสมอ มีโอกาสที่ user จะคลิกมากกว่า

3. A/B Testing : ทดลองทำ

เราเริ่มทำ A/B Testing โดยการแบ่ง landing page ออกเป็น 2 แบบ

  • แบบแรก คือ landing page อันเดิม ไม่มีการเปลี่ยนดีไซน์
  • แบบที่สอง คือ landing page ที่มี sticky bar คือ ปุ่ม LINE และ Facebook เลื่อนตาม user 

เมื่อดีไซน์ทั้ง 2 แบบเสร็จแล้ว เราได้แบ่ง traffic ที่เข้า landing page สองอันนี้อย่างละครึ่ง คือ 50% คลิกโฆษณาแล้วเข้าไปเจอ landing page แบบแรก และอีก 50% เข้าไปเจอ landing page ที่มี sticky bar โดยตั้งเวลาทำการทดลองทั้งหมด 1 เดือนครึ่ง

4. Analyze : วิเคราะห์ผลการทดลอง

cro, Conversion Rate Optimization

จากข้อมูลสรุปเบื้องต้น เราพบว่า landing page ที่ทำการ test โดยใส่ sticky bar นั้น ทำให้ conversion rate เพิ่มขึ้น 7% และกราฟด้านล่างคือ 79% ที่ยืนยันว่า landing page เวอร์ชันที่มี sticky bar คือเวอร์ชันที่ดีที่สุดในการเพิ่ม conversion rate

CRO, Conversion Rate Optimization

สรุป : ใคร/ธุรกิจแบบไหนบ้างที่ต้องทำ CRO

ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการ optimize เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ ในขั้นตอนลงมือทำยังมีรายละเอียดและเทคนิคอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ

ถ้าถามว่า CRO เหมาะกับใครและธุรกิจไหนบ้าง 

เตยคิดว่า ธุรกิจไหน ๆ ก็ตาม ถ้าคุณใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญในการขายสินค้าและบริการ การทำ CRO เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ เพราะมันช่วยให้คุณไปถึง goal  ที่ตั้งไว้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นด้วยค่ะ

สำหรับใครที่ต้องการคุยรายละเอียดลึก ๆ เกี่ยวกับการทำ CRO หรืออยากให้เตยและทีมช่วยให้คำแนะนำ ติดต่อมาคุยกันได้นะคะ ที่ Heroleads เรามีทีมที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ

Warintorn Rattanaphol

Web Analyst ที่หลงใหลในการทำ Data Visualization ชอบการวิเคราะห์ campaign เพื่อหา insight และสื่อสารภาษาการตลาดให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายขึ้น

Recent posts

Brand Lift Study

Heroleads x Betadine วัดความสำเร็จธุรกิจ ผ่าน Brand Lift

Heroleads x Bet...
google tips for navigating third party cookie

เตรียมตัวบอกลา Third Party Cookies ในปี 2024

เตรียมตัวบอกลา ...
digital-marketing-agency-Revise-th1

10 สิ่งที่ควรรู้! ก่อนทำการตลาดกับเอเจนซี่

10 สิ่งที่ควรรู...

ปรึกษาแผนการตลาด
กับผู้เชี่ยวชาญของเรา

กรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับ เพื่อรับคำแนะนำ และ Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณ พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นแคมเปญ