กลยุทธ์ Lead Generation ธุรกิจอสังหาฯ ปิดแคมเปญ 810 ล้าน ใน 2 วัน
บทความน่าอ่าน
จากโจทย์หินสุดท้าทาย สู่ยอดขายที่เกินเป้า! Heroleads ช่วยลูกค้าปิดการขาย 810 ล้าน ได้ใน 2 วัน ด้วยกลยุทธ์ Lead Generation ธุรกิจอสังหาฯ ที่คิดต่าง เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มากกว่า…ไปดูกันว่าเราทำได้ยังไง
โจทย์บีบคั้นหัวใจ “ปิดการขายในระยะเวลาสั้น”
ลูกค้าของเรารายนี้เป็นธุรกิจอสังหาฯ แบรนด์ใหญ่ในตลาด ที่เปิดตัวโครงการใหม่ เป็นทาวน์เฮ้าส์ระดับกลาง ราคาเริ่มต้น 3-5 ล้านบาท และต้องการทำ Lead Generation เพื่อดันยอดขายในวัน Pre-sale ให้ได้มากที่สุด
ความยากของแคมเปญนี้อยู่ที่แบรนด์ต้องการ Qualified Lead ที่เซลล์มีโอกาสจะปิดการขายได้ โดยที่เรามีระยะเวลาการเก็บ Lead เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งถือว่าสั้นมาก ๆ สำหรับสินค้า High Involvment อย่างบ้านและคอนโดที่ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เวลาเปรียบเทียบและตัดสินใจค่อนข้างนานตั้งแต่ 2-3 เดือนขึ้นไป
สิ่งที่แบรนด์คาดหวังจากแคมเปญนี้ คือปิดการขายให้ได้ 1 ใน 4 ของโครงการ หรือคิดเป็นมูลค่าราว 200 กว่าล้านบาทภายใน 2 วันของการจัดงาน Pre-sale
แต่ผลลัพธ์ที่ได้จาก Heroleads เกินความคาดหมาย! เพราะ ขายได้หมดทุกยูนิตตั้งแต่วันแรก จนถึงขั้นต้องเปิดเฟสใหม่ และปิดยอดขายได้ทั้งหมด 810 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ Lead Generation จาก Heroleads
ถอดกลยุทธ์ Lead Generation ธุรกิจอสังหาฯ : คิดต่างเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มากกว่า
กลยุทธ์ Lead Generation ธุรกิจอสังหาฯ ยุคนี้คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ปกติแคมเปญประเภทนี้จะเป็นแคมเปญระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ดังนั้นเมื่อทางทีมได้รับโจทย์ที่ท้าทาย กับการต้องหา Lead ให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาอันสั้น จึงต้องวางแผน และออกแบบกลยุทธ์กันใหม่ทั้งหมด
และนี่คือกลยุทธ์ที่เราใช้
1. เพิ่ม Awareness นอกเหนือจากการทำ Conversion
ปกติแคมเปญ Lead Generation สำหรับธุรกิจอสังหาฯ นักการตลาดมักจะตั้ง Objective ในการโฆษณาโดยเน้นไปที่ Conversion คือทำให้คนลงทะเบียนผ่านหน้า Landing Page มาให้เยอะที่สุด
เคสนี้ แม้ทางแบรนด์จะมีงบประมาณสำหรับทำแคมเปญค่อนข้างเยอะ แต่เราก็ไม่แนะนำให้อัดเงินทำ “Conversion” ในระยะเวลาสั้น ๆ เพราะการที่อัลกอรึทึมของ Facebook หรือ Google จะไป Reach กลุ่ม Target ในระยะเวลาสั้น ๆ จะต้องใช้เงินมากกว่าเดิม ทำให้ Cost per lead สูงกว่าปกติ 2-3 เท่าตัว ซึ่งไม่เป็นผลดีกับแบรนด์
สิ่งที่เราแนะนำ คือให้ทำ “Awareness” ควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ และได้ Lead มากขึ้น
กลยุทธ์เสริมที่เราเอามาใช้เพิ่ม Awareness ให้แคมเปญ ได้แก่ การทำ Content Marketing บนโซเชียลมีเดีย โดยมีการรีเสิร์ซข้อมูลก่อนว่า แคมเปญของเราต้องการเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากขนาดไหน แล้วจึงคำนวณออกมาเป็นจำนวนคอนเทนต์ที่ต้องการ
รวมไปถึงการทำโฆษณา Google Search โดยใช้ Awareness Keywords นอกเหนือจาก Branded Keywords ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
2. Optimize และหา Target ใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง
อีกส่วนสำคัญที่ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ คือการที่ Heroleads มีทีม Optimizer ซึ่งมีความเชี่ยวชาญการทำแคมเปญ Lead Generation สำหรับธุรกิจอสังหาฯ คอยมอร์นิเตอร์แคมเปญอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ปล่อยโฆษณาออกไปแล้วจบ
หลังจากปล่อยแคมเปญไประยะหนึ่งแล้ว เรามีการวิเคราะห์แคมเปญ วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และเพิ่ม Target ใหม่ ๆ เข้าไป นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งเป็นคนที่ทำงานอยู่ในย่านนั้น เช่น กลุ่มครอบครัวที่สนใจโรงเรียนนานาชาติในละแวกโครงการ หรือกลุ่มคนที่สนใจ lifestlye ในย่านนี้ เป็นต้น
3. แชร์ข้อมูลระหว่างกัน และทำงานร่วมกันเป็น “ทีม”
Heroleads กับลูกค้า เราทำงานเป็นทีมเดียวกัน เราไม่ได้แค่ทำตามโจทย์ที่ได้รับ แต่เราเป็นเหมือนที่ปรึกษา ซึ่งใช้ดาต้า ข้อมูลเชิงลึกที่เรามี มาช่วยซัพพอร์ตการตัดสินใจสำคัญ ๆ ของลูกค้า ทำให้แคมเปญเห็นผลสำเร็จได้ชัดเจนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ลูกค้าเองก็ไม่ได้มองเราเป็นคนนอก แต่มองเราเหมือนเป็นทีมเดียวกัน มีการแชร์ข้อมูลระหว่างกัน และรับฟังซึ่งกันและกัน ซึ่งนั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในความสำเร็จที่ Heroleads มอบให้กับลูกค้า สำหรับใครที่อยากได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ของเรา คลิก ปรึกษาเรา เพื่อรับคำแนะนำเบื้องต้นฟรีได้เลยครับ