เทคนิคเพิ่มยอดขายอสังหาฯ ด้วยการ Optimize หน้า Landing Page

Heroleads

“landing page” คือหน้าแรกที่คนคลิกเข้ามาจากโฆษณาของเรา…ในการทำแคมเปญ lead generation ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น landing page ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมาก เพราะมันทำหน้าที่เหมือนพนักงานขาย ที่ต้องให้ข้อมูลได้ดีที่สุด! ดูดีที่สุด!  และ convince ลูกค้า เพื่อปิดการขายได้เก่งที่สุด! 

ทำไมธุรกิจอสังหาฯ ต้องมีหน้าเว็บ Landing Page?

ผู้ซื้ออสังหาฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะเข้าไปอ่านบทความรีวิวยาว ๆ ตามเว็บไซต์ ข้อมูลที่พวกเขาอยากได้มีแค่ 3 อย่าง คือ 1.โครงการตั้งอยู่ที่ไหน 2.หน้าตาโครงการเป็นยังไง 3. มีโปรโมชันอะไรที่น่าสนใจบ้าง ซึ่ง landing page ตอบคำถามเหล่านี้ได้ในเวลาอันสั้น 

นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการของเราดูมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เพราะการมี Facebook เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพออีกแล้วสำหรับยุคนี้  

มี Landing Page อยู่แล้ว ทำไมต้อง Optimize อีก? 

จากประสบการณ์ของ Heroleads ในการหาลูกค้าใหม่ให้ธุรกิจอสังหาฯ เราพบว่าโครงการเดียวกัน โปรโมชันเดียวกัน เพียงแค่เราปรับโครงสร้าง landing page ใหม่ และ optimise ดี ๆ ก็สามารถเพิ่ม conversion rate ได้ถึงเท่าตัว! 

เมื่อไหร่ที่ต้องทำ  landing page optimization ?

ที่ Heroleads หลังจากที่ทีม Graphic Designer ออกแบบ landing page มาแล้ว เราจะมีอีก 2 ทีมที่ช่วยกันดูแลเรื่อง performance คือทีม Ad Optimisation ซึ่งเป็นด่านแรกที่ดูว่า lead ที่เข้ามามีพฤติกรรมแบบไหน engagement และ quality score เป็นอย่างไร และ ทีม Systems Support ที่เน้นเรื่องการติดตั้งระบบต่างๆ รวมทั้งการวัด page speed และ UX/UI เพื่อดูว่ามีอะไรที่เราควรจะต้องเข้าไปเปลี่ยนบ้าง

Optimize ยังไง ให้ได้ conversion rate สูงๆ?

มีหลายองค์ประกอบที่เราต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ 

1. Page Speed

ความเร็วในการโหลดข้อมูลบนหน้าเว็บเป็นอย่างแรกที่เราต้องดู เพราะทันทีที่มีคนคลิกเข้ามา เขาจะอยู่กับเราแค่ 1 วินาทีเท่านั้น ถ้า landing page ของเราใช้เวลาโหลดข้อมูลนาน ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะออกหน้าเว็บไปดูข้อมูลจากโครงการอื่นได้

2. Header 

Header คือส่วนแรกที่ลูกค้าคลิกโฆษณาเข้ามาแล้วเจอเรา ดังนั้นข้อความและภาพในส่วนนี้ต้องสื่อสารให้ชัดเจน หากกำกวมจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อลำบาก 

เช่น ข้อความบอกว่า “ฟรีของแถม 10 อย่าง” แต่ไม่ได้บอกว่ามีอะไรบ้าง หรือ “ดาวน์ต่ำ” แต่ไม่รู้ว่าดาวน์เท่าไหร่ ลูกค้าก็จะเกิดความลังเลในทันที

หรือขายคอนโดแต่มีแค่รูปห้อง 1 ห้อง ลูกค้าก็ดูไม่ออกว่า location อยู่ที่ไหน หรือบางครั้งภาพไม่มีคุณภาพ ทำให้ดูไม่น่าสนใจก็ต้องเปลี่ยน

3. UX และ UI

UX (User Experience) คือการสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี การ optimize ในส่วนนี้ เช่น การใส่ปุ่มหรือข้อความบน header เพื่อทำให้คนอยากเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดด้านล่างต่อ การใส่ menu bar หรือการออกแบบกราฟฟิกที่ทำให้ user ไปตาม flow ที่เราวางเอาไว้ ไม่เกิดการ lost หรือคลิกออกจะหน้าไปก่อนที่จะอ่านจบ 

ส่วน UI (User Interface) คือการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ของเราให้สวยงาม สร้าง first impression ที่ดีให้กับผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสี ฟ้อนต์ การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ

4. Video

สำหรับธุรกิจอสังหาฯ “วิดีโอ” เป็นคีย์หลักที่ทำให้ลูกค้าเห็นภาพของโครงการนั้น ๆ แต่การใส่วิดีโอลงไปใน landing page ก็มีผลทำให้ต้องใช้เวลาในการโหลดหน้าเว็บนานขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีวิธีที่จะใส่วิดีโอลงไปโดยที่ใช้เวลาดึง traffic น้อยที่สุด 

อีกวิธีที่ได้ผลเหมือนกัน คือการใช้ภาพถ่าย 360 องศา ซึ่งตอบโจทย์มากสำหรับการใช้งานบนเดสท็อป แต่สำหรับการดูผ่านโทรศัพท์มือถืออาจจะต้องออกแบบให้แตกต่างกัน

5. Mobile Responsive

จากสถิติที่เรารวบรวมมา 80% ของผู้ซื้ออสังหาฯ เข้ามาดู landing page ผ่านโทรศัพท์มือถือ และอีก 20% ใช้งานผ่านเดสก์ท็อป ดังนั้นการออกแบบ landing Page ให้เป็น mobile responsive จึงสำคัญ

6. Tracking

การติดตั้งระบบ tracking ทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ traffic ทั้งหมดที่เข้ามายังหน้า landing page ทำให้รู้ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร มาจากไหน และยังนำข้อมูลไปใช้ทำโฆษณา remarketing และวางกลยุทธ์การตลาดต่อไปได้

Contact Us

Kalyakorn Maswongssa

Recent posts

Brand Lift Study

Heroleads x Betadine วัดความสำเร็จธุรกิจ ผ่าน Brand Lift

Heroleads x Bet...
google tips for navigating third party cookie

เตรียมตัวบอกลา Third Party Cookies ในปี 2024

เตรียมตัวบอกลา ...
digital-marketing-agency-Revise-th1

10 สิ่งที่ควรรู้! ก่อนทำการตลาดกับเอเจนซี่

10 สิ่งที่ควรรู...

ปรึกษาแผนการตลาด
กับผู้เชี่ยวชาญของเรา

กรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับ เพื่อรับคำแนะนำ และ Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณ พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นแคมเปญ