HeroPlatform : โซลูชันเพื่อการขาย เพิ่ม ROI ให้ธุรกิจอสังหาฯ
บทความน่าอ่าน
ช่วง 1-2 ปีมานี้ ธุรกิจอสังหาฯ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เข้ามาปรึกษาเรามากที่สุด ปัญหาก็มีหลากหลายครับ ตั้งแต่ขายไม่ได้ ไม่รู้จะแบ่งงบโฆษณายังไง ไม่รู้ว่าวิธีไหนเวิร์ก-ไม่เวิร์ก หรือบางรายเคยทำออนไลน์เองแล้วไม่เห็นผล ฯลฯ แต่เชื่อไหมครับ หลังจากได้ทำงานด้วยกัน แคมเปญการตลาดออนไลน์ของธุรกิจอสังหาฯ ถ้าทำถูกวิธี กลับมี ROI สูงมาก วันนี้เลยอยากจะแชร์โชลูชันเพิ่ม ROI ให้ธุรกิจอสังหาฯ ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า HeroPlatform ของเรากันครับ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันหน่อยครับว่า ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโดฯ สักโครงการ ลูกค้าของคุณคิดอะไรกันอยู่…
จิตวิทยาเบื้องหลังการตัดสินใจซื้อ
เคยได้ยินหลักการ “Buyer Decision Process” ของ จอห์น ดูอี (John Dewey) กันไหมครับ?
จอห์น ดูอี เป็นนักจิตวิทยาชื่อดังชาวอเมริกัน เขาพูดถึงกระบวนการในการตัดสินใจซื้อของคนเราว่า มีด้วยกัน 5 ข้อหลัก ๆ
- รับรู้ปัญหา / รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร (Problem/need-recognition)
- ค้นหาข้อมูล (Information search)
- ประเมินทางเลือก (Evaluation of alternatives)
- ตัดสินใจซื้อ (Purchase decision)
- พฤติกรรมหลังการซื้อ (Post-purchase behavior)
หลักการนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างดีเวลาที่เราทำการตลาดออนไลน์ให้ลูกค้าที่เป็นธุรกิจอสังหาฯ และเครื่องมือ HeroPlatform ที่เรานำมาใช้ ก็พัฒนามาจากการพยายามจะทำให้ธุรกิจสามารถตามติดลูกค้าในทุก ๆ journey ตามหลักการข้างต้นนี่แหละครับ
HeroPlatform ช่วยธุรกิจได้อย่างไร?
หลักการทำงานเบื้องต้น 3 ข้อ :
1. รู้ว่าลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน
อย่างที่บอกไปครับว่า คนเราเมื่อต้องการอะไร มักจะเข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนั้นก่อน ที่ไหนคือแหล่งข้อมูลที่ใหญ่ที่สุด? ก็บนออนไลน์ยังไงล่ะ!
HeroPlatform ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน โดยการที่มันสามารถ Tracking ข้อมูลได้ว่า โฆษณาบนช่องทางไหน (Google, Facebook, etc.) ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุด (Impression, Click, View, Engagement)
2. เปลี่ยน “คลิก” ให้เป็น “ขาย”
จะมีประโยชน์อะไรถ้ามีคนสนใจโฆษณาแต่ไม่มีคนซื้อสินค้า จริงไหมครับ
HeroPlatform นอกจากช่วยเรื่อง Online Campaign Analytics ยังช่วยเรื่อง Lead Management ด้วย โดยการที่มันสามารถสร้างฐานรายชื่อลูกค้า (Lead) จากคนที่กรอกข้อมูลเข้ามาจากหน้า Landing Page เซลสามารถโทรหรือส่งอีเมลติดต่อกลับไปเพื่อปิดการขาย และยังสามารถอัปเดต status ของ Lead แต่ละรายได้แบบเรียลไทม์
3.รายงานข้อมูล insight แบบเข้าใจง่าย
การอ่านค่า Metric ต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนที่ไม่ได้มาจากสายงานดิจิทัลโดยตรง แต่นี่ก็เป็นข้อมูลสำคัญที่คนทำธุรกิจต้องรู้
HeroPlatform ช่วยให้เราสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ และแปลงข้อมูลตัวเลขให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าจะในรูปแบบตาราง กราฟ หรือแผนภูมิสีสันสวยงาม
Case Study : คอนโดฯ รอขายมา 3 ปี Sold Out ทันทีใน 3 เดือน!
ด้วยเทคโนโลยีข้างต้น เราสามารถช่วยธุรกิจอสังหาฯ ปิดการขายและขยายธุรกิจได้หลายโครงการ หนึ่งในเคสที่เราภูมิใจ คือคอนโดมิเนียมติดแม่น้ำโครงการหนึ่ง (ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อลูกค้านะครับ) ซึ่งเปิดขายมากว่า 3 ปี แต่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้
เมื่อเรามีโอกาสได้เข้าไปดูแลก็นำแพลตฟอร์มทั้ง 2 นี้ไปใช้ HeroAI สำหรับทีม Optimise ของเราเองบริหารแคมเปญโฆษณาทั้งบน Google และ Facebook และ HeroVision สำหรับทีม AM และลูกค้า เพื่อติดตามผลแบบเรียลไทม์ บริหารจัดการ Lead และวิเคราะห์ข้อมูล
ผลลัพธ์คือ คอนโดมิเนียมจำนวนกว่า 200 ยูนิตนี้ มีลูกค้า (Lead) ติดต่อเข้ามามากกว่า 500 ราย โดยที่กว่า 40% เป็นลูกค้าคุณภาพที่มีศักยภาพในการซื้อ ที่สำคัญคือ สามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายใน 3 เดือน!
เบื้องหลังความสำเร็จ คือการทำงานร่วมกันระหว่างทีมต่าง ๆ ตั้งแต่ Planner ที่วางกลยุทธ์ ทีม AM และ Consultant ที่ดูแลลูกค้าแบบใกล้ชิด ทีม Creative ที่ทำงานอย่างหนัก และ Optimizer ที่มอนิเตอร์แคมเปญตลอดเวลา
ที่สำคัญคือเทคโนโลยี “HeroPlatform” ที่ทำให้แต่ละทีม รวมถึงเรากับลูกค้า สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จครับ