“COVID-19” กระทบอีเวนต์รถ พึ่ง Lead Generation ดันยอดขายออนไลน์
บทความน่าอ่าน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ไทยปี 2563 จะหดตัวลงไปประมาณร้อยละ 7-11 เป็นผลมาจากปัจจัยลบด้านต่าง ๆ รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่อาจส่งผลต่อการจัดงานมอเตอร์โชว์ 2020 ปลายเดือน มี.ค. นี้ด้วย
การระบาดของไวรัส Covid-19 หรือที่รู้จักกันในนาม “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในเอเชียอย่างหนัก โดยเฉพาะการจัดงานกิจกรรม หรือ Public Event ซึ่งเป็นการรวมตัวของคนหมู่มากและ “เสี่ยง” ที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
ล่าสุด ในประเทศไทย “โคโรนา เอฟเฟกต์” ทำให้เกิดการ “เลื่อน” และ “เลิก” งานอีเวนต์ไปแล้วนับสิบงาน โดยเฉพาะงานอีเวนต์ของแบรนด์สินค้าลักชัวรีระดับโลก และรถยนต์ที่กำลังจะเปิดตัวสินค้าใหม่
ขณะที่ในประเทศจีน งานแสดงรถยนต์ชั้นนำอย่าง Beijing Auto Show 2020 ซึ่งเป็นงานแสดงยานยนต์ครั้งใหญ่ในช่วงต้นปี และมีผู้เข้าชมปีละประมาณ 800,000 คน มีแววว่าอาจจะต้องเลื่อนการจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ส่วน งานมอเตอร์โชว์ 2020 ในไทย ซึ่งปกติจะจัดขึ้นปลายเดือน มี.ค. ก็อาจจะได้รับผลกระทบเช่นกัน หากสถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการณ์ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รวมกับปัจจัยลบอื่น ๆ อาจทำให้ตลาดรถยนต์ไทยปี 2563 หดตัวลงไปประมาณร้อยละ 7-11 หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ 900,000 ถึง 940,000 คัน โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ยอดขายรถยนต์น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
เมื่ออีเวนต์ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการขายรถได้รับผลกระทบ จะมีวิธีไหนทำให้แบรนด์และบรรดาดีลเลอร์หาลูกค้าใหม่ได้อีก?
Lead Generation หาลูกค้าออนไลน์ไม่ต้องพึ่งอีเวนต์
Lead generation คือการสร้างฐานรายชื่อและช่องทางติดต่อลูกค้าผ่านโฆษณาออนไลน์
สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำนี้ ลองนึกภาพเวลาที่เราไปออกบูธตามห้างหรืองานอีเวนต์ต่าง ๆ แล้ว มีลูกค้าเข้ามาสอบถามแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ
สิ่งที่เซลของเราทำ คือเข้าไปขอ “Contact Information” ไม่ว่าจะเป็นชื่อ อีเมล เบอร์โทร หรือช่องทางติดต่อต่าง ๆ เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับโทรไปเสนอขายในภายหลัง
“Lead Generation” ก็อาศัยหลักการเดียวกัน เพียงแต่มันเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์
Lead Generation กับอุตสาหกรรมยานยนต์
Lead generation เป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดนิยมใช้กับสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งผู้ซื้อไม่สามารถตัดสินใจได้ทันทีเมื่อเห็นโฆษณา รถยนต์ก็จัดเป็นสินค้าในกลุ่มนี้
ตัวอย่างการใช้ lead generation ในอุตสาหกรรมรถยนต์ เช่น ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ทดลองขับ ลงทะเบียนรับส่วนลด/โปรโมชันพิเศษ หรือจองคิวนำรถเข้าศูนย์บริการ เป็นต้น
วิธีทำ Lead Generation
ขั้นตอนที่ 1 : Offer – ยื่นข้อเสนอพิเศษ
เริ่มต้นด้วยการทำคอนเทนต์หรือแบนเนอร์โฆษณา บอกให้คนรู้ว่าเรามีโปรโมชัน หรือบริการพิเศษอะไรที่ดูน่าสนใจในสายตากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น รับสิทธิ์ทดลองขับ รับของแถมพิเศษ หรือราคาพิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนก่อน
ขั้นตอนที่ 2 : Call-to-Action – กระตุ้นให้เกิดการกระทำ
ใช้รูปภาพ ตัวหนังสือ หรือปุ่มกด (Bottom) กระตุ้นให้คนคลิกไปยังหน้า landing page เพื่อรับข้อเสนอพิเศษนั้น ๆ
ขั้นตอนที่ 3 Landing Page – หน้าเว็บไซต์แสดงรายละเอียด
Landing Page แตกต่างจาก website ตรงที่มีเพียงหน้าเดียว และสื่อสารจุดประสงค์เดียว เช่น โปรโมชันที่โชว์รูมของเราโปรโมทอยู่ในขณะนั้น หรือกิจกรรมพิเศษที่ต้องการให้คนมาลงทะเบียน โดย landing page จะประกอบด้วยรายละเอียด และวิธีการรับข้อเสนอพิเศษนั้น ๆ
ขั้นที่ 4 Form – แบบฟอร์มกรอกข้อมูล
เป็นแบบฟอร์มที่ให้ผู้ชมกรอกข้อมูลเพื่อแลกกับข้อเสนอพิเศษ เช่น ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทร, อีเมล เป็นต้น ข้อมูลส่วนนี้นี่แหละที่จะถูกจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อให้ฝ่ายขายโทรไปโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการต่อไป
สำหรับค่ายรถหรือดีลเลอร์ที่ได้รับผลกระทบจากการเลื่อน หรือยกเลิกงานอีเวนต์ “Lead Generation” เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมันช่วยให้คุณค้นพบ “ลูกค้าที่ใช่” ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตามบนโลกใบนี้